วิธีดูแลรถยนต์เบื้องต้น ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
เขียนเมื่อวันที่ 17/02/2022
หมั่นดูแลรถให้พร้อมขับ ถึงที่หมายปลอดภัย
ปัจจุบันการซื้อรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การดูแลรถยนต์ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตามที่ทราบกันดีว่ารถยนต์เมื่อใช้ไปนาน ๆ เข้าก็ต้องมีการสึกหรอ ฉะนั้นหลายคนจึงนำรถเข้ารับการตรวจเช็คสภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรงขึ้นกับรถยนต์หรือเสื่อมสภาพไปก่อนเวลาอันควร วันนี้ HUGS Insurance มีเคล็ดลับการดูแลรถยนต์ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้กับรถของคุณไม่ว่าจะเป็นป้ายแดงหรือรถมือสอง ส่วนวิธีดูแลรถคู่ใจมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
คนมีรถควรรู้ 9 เทคนิคดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น
1. หมั่นตรวจเช็คลมยางอยู่เสมอ
ยางรถยนต์ถือว่าเป็นอีกส่วนประกอบของรถยนต์ เพราะทำหน้าที่รับน้ำหนักรถและสัมภาระต่าง ๆ ทั้งเป็นเพียงชิ้นส่วนเดียวของรถยนต์ที่สัมผัสพื้นถนน ฉะนั้นเพื่อป้องกันการสึกหรอของยางก่อนเวลาอันควร แนะนำให้ตรวจสอบระดับแรงดันของลมยางทั้งสี่ล้ออย่างน้อยทุก 7 วัน รวมถึงตรวจดูสภาพยางด้วยตาอย่างละเอียดว่ามีดอกยางสึกมากไปไหม หรือเกิดการสึกหรอที่ไม่เสมอกัน หากพบความผิดปกติดังกล่าวจะได้รีบดำเนินการเปลี่ยนยางใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
2. หมั่นเช็คของเหลวในเครื่องยนต์
การเติมน้ำมันเครื่องช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อลดแรงเสียดทาน
การหมั่นเช็คระดับของเหลวต่าง ๆ ภายในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำยาแอร์ น้ำหล่อเย็น น้ำกลั่นแบตเตอรี่ และน้ำมันหล่อลื่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่น น้ำมันเบรกควรอยู่ที่ระดับ MAX เสมอ และน้ำหล่อเย็นควรจะอยู่ในระดับ full เสมอ เพื่อให้คุณใช้รถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางและเวลา เพื่อป้องกันคราบตะกอนฝังอยู่ภายใน โดยกำหนดเปลี่ยนถ่ายขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันเครื่องดังนี้
- น้ำมันเครื่องธรรมดา กำหนดการเปลี่ยนถ่าย 7,000–7,500 กิโลเมตร หรือเปลี่ยนทุก 6 เดือน
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ กำหนดการเปลี่ยนถ่าย 10,000–15,000 กิโลเมตร หรือเปลี่ยนทุก 6-9 เดือน
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ กำหนดการเปลี่ยนถ่าย 15,000–20,000 กิโลเมตร หรือเปลี่ยนทุก 1 ปี
3. เช็คระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่าง ๆ
การตรวจสอบระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่าง ๆ เป็นขั้นตอนเช็คสภาพรถที่ทำได้ง่ายเพียงค่อย ๆ เปิดสัญญาณไฟทั้งหมดว่าทำงานปกติหรือไม่ ถ้าพบว่ามีหลอดไฟดวงไหนไม่ติดหรือติด ๆ ดับ ๆ ควรเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หากไม่มั่นใจว่าสาเหตุที่สัญญาณไฟทำงานผิดปกติเป็นเพราะหลอดไฟเสีย หรือระบบไฟภายในมีปัญหาแนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คอย่างละเอียด
4. ตรวจเช็คสายพาน
ตามปกติแล้วสายพานรถยนต์มีอายุการใช้งานประมาณ 50,000 กิโลเมตร หรือใช้ 2-3 ปีถึงต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าคุณใช้งานสายพานเส้นดังกล่าวได้ระยะทางประมาณ 40,000 กิโลเมตร กลับตรวจพบว่าสายพานมีรอยแตกหรือหย่อนยาน ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเปลี่ยนสายพานเส้นใหม่ทันที เพื่อป้องกันอันตรายระหว่างขับขี่
5. แบตเตอรี่
แบตเตอรี่เปรียบเสมือนหัวใจของรถยนต์ เพราะทำหน้าที่เก็บและสำรองกระแสไฟฟ้าก่อนจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถยนต์ ทั้งขณะสตาร์ทเครื่องยนต์และยังไม่สตาร์ท เช่น
- ระบบจุดระเบิดเครื่องยนต์เพื่อให้เครื่องยนต์หมุนและติดเครื่องได้
- ระบบไฟส่องสว่างภายในรถระหว่างที่ยังไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์
ดังนั้นควรตรวจสอบสภาพตัวแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติอย่างสตาร์ทรถติดยากมีความเป็นไปได้ว่า แบตเตอรี่เสื่อมเพราะตามปกติมีอายุการใช้งาน 1-2 ปี
6. ที่ปัดน้ำฝนหรือใบปัดน้ำฝน
ที่ปัดน้ำฝนเป็นตัวช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับรถในช่วงฝนตก
ใบปัดน้ำฝนอุปกรณ์ที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ของคุณดีขึ้นเมื่อต้องขับรถตอนฝนตกหนัก หากตรวจพบว่าใบปัดน้ำฝนของคุณไม่สามารถกวาดน้ำบนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนก่อน หรือทิ้งคราบน้ำไว้บนกระจกรถ นั่นแสดงว่าใบปัดน้ำฝนเริ่มเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยเวลาขับรถช่วงหน้าฝน
7. ทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์
ผู้ใช้รถควรล้างห้องเครื่องยนต์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์ขณะทำงาน เนื่องจากเครื่องยนต์ที่สะอาดจะมีอุณหภูมิการทำงานที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์ที่สกปรก ที่สำคัญการทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์ช่วยให้คุณตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่ามีอะไหล่รถยนต์ชิ้นไหนที่มีการสึกหรอและต้องรีบเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนใครที่พะวงเรื่องค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ อาจเลือกทำประกันภัยอะไหล่รถยนต์เพื่อรับความคุ้มครองต่อชิ้นส่วนอะไหล่รถที่เสียหายจากการใช้งานตามปกติ
8. ล้างรถ
การล้างรถถือเป็นวิธีดูแลรถเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ นอกจากขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวรถออกไปแล้ว ยังทำให้รถของคุณดูใหม่ สีไม่ซีด ไม่มีสนิมขึ้น แถมนี่ยังเป็นการสำรวจรอยขีดข่วนหรือร่องรอยสนิมที่อาจเกิดขึ้นบนผิวรถอีกด้วย
9. เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ
แผ่นกรองอากาศเป็นชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้ามาภายในรถยนต์ หากไม่หมั่นตรวจเช็คให้แผ่นกรองอากาศสะอาดอยู่เสมอ นอกจากมีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันแผ่นกรองอากาศยังส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักมากกว่าปกติอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 9 วิธีดูแลรถยนต์เบื้องต้น ที่ทางทีมงานฮักส์ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ประกันภัยนำมาฝาก นอกจากเห็นถึงประโยชน์ของการบำรุงรักษารถยนต์ที่ช่วยยืดอายุให้รถอยู่คู่กับคุณไปนาน ๆ ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอีกด้วย หากใครต้องการเพิ่มความคุ้มครองให้รถคู่ใจของคุณนอกเหนือไปจาก พ.ร.บ.รถยนต์ สามารถเลือกทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+ และประกันภัยอะไหล่รถยนต์ ฮักส์ยินดีให้คำแนะนำการเลือกกรมธรรม์ประกันภัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: HUGS Insurance ช่องทางไลน์ @hugsinsurance หรือ โทร 0 2975 5855