ประกันรถยนต์ชั้น 2 VS ประกันรถยนต์ชั้น 3 ต่างกันยังไง
เขียนเมื่อวันที่ 19/07/2021
เทียบชัด ๆ ประกันรถยนต์ ชั้น 2 กับ 3 ต่างกันอย่างไร
"ค่าประกันภัยรถยนต์" เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายรายปีที่ผู้มีรถยนต์ต้องเสียเป็นประจำในแต่ละปี เพื่อโอนความเสี่ยงเมื่อเกิดอุบัติเหตุไปให้บริษัทประกันภัยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแทน ทำให้ประกันภัยรถยนต์มีสำคัญมากสำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่ถึงอย่างนั้นการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องดูว่าประเภทประกันภัยรถยนต์ที่สนใจนั้น เหมาะสมกับอายุรถและการใช้งานรถยนต์ของเราหรือไม่ โดยวันนี้ Hugs จะพาไปดูว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 3 มีความแตกต่างในเรื่องอะไรบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจทำประกันภัยรถยนต์
ประกันรถยนต์ชั้น 2 คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง
เป็นประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (คู่กรณี) รวมถึงคุ้มครองค่าซ่อมแซมของรถคู่กรณีด้วย ส่วนตัวผู้ขับขี่จะคุ้มครองกรณีเสียชีวิตและบาดเจ็บเท่านั้น นอกจากนี้ยังคุ้มครองกรณีรถสูญหาย ถูกโจรกรรม และจากเหตุไฟไหม้ แต่ไม่คุ้มครองกรณีที่เกิดความเสียหายจากการขับไปชนเอง ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3 คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง
เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองบุคคลภายนอก (คู่กรณี) ทั้งกรณีเสียชีวิตและการบาดเจ็บ ขณะเดียวกันยังคุ้มครองค่าซ่อมแซมรถของคู่กรณี ส่วนตัวผู้ขับขี่จะคุ้มครองกรณีเสียชีวิตและบาดเจ็บเท่านั้น แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ นั่นเท่ากับว่าผู้ทำประกันต้องเสียค่าซ่อมรถเองทั้งหมด ไม่ว่ารถยนต์จะได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ ถูกชน หรือน้ำท่วมก็ตาม
ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 3 แตกต่างกันยังไง
เมื่อเปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ 3 ทั้งในส่วนที่เหมือนและแตกต่างกัน มีรายละเอียดดังนี้
ความคุ้มครองที่เหมือนกัน
เป็นประกันภัยที่รับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกหรือคู่กรณีทั้งด้านทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกาย แต่ในส่วนเจ้าของรถยนต์คันที่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ 3 ต้องซ่อมรถเอง
ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมกรณีรถยนต์สูญหาย ถูกโจรกรรม และเหตุไฟไหม้ ขณะที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ไม่ได้ให้ความคุ้มครองครอบคลุมตรงส่วนนี้
รถยนต์ถูกชนท้ายแยกไฟแดง
ทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี 2564
"ซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี" ยังคงเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะทุกคนต่างอยากได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด และเพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3 ลองไปดูเคล็ดลับในการเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่เรานำมาฝากกัน
(1) ชื่อเสียงของบริษัทประกันภัย
การทำประกันภัยรถยนต์เพื่อดูแลความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุรถชน แต่ละครั้งมีผลยาวถึง 12 เดือน (หรือ 1 ปีเต็ม ๆ) ฉะนั้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยรถยนต์ไม่ว่าจะชั้นไหนก็ตาม ควรตรวจสอบชื่อเสียงบริษัทประกันภัยที่เราสนใจเป็นลำดับต้น ๆ เพราะยิ่งบริษัทประกันภัยมีชื่อเสียงติดตลาดมากเท่าไหร่ การตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทแห่งนั้นก็เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลมประกัน คุณภาพของงานซ่อม หรือความคุ้มค่าของเบี้ยประกันรถที่จ่ายไป
(2) บริการหลังการขายดีเยี่ยม
การให้บริการหลังการขายก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าบริษัทประกันภัยมีเครือข่ายทั่วประเทศ ยิ่งทำให้ผู้ทำประกันอุ่นใจได้เลยว่า หากเกิดอุบัติเหตุที่จังหวัดไหน ก็มีเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลเราได้ทันท่วงที
(3) เบี้ยประกันสอดคล้องกับความคุ้มครอง
ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นชั้นไหน ควรพิจารณาเบี้ยประกันว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากน้อยเพียงไหน เพราะไหน ๆ ก็ต้องเสียเงินแลกความคุ้มครองแล้ว สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาก็ควรคุ้มกับเงินที่เสียไปด้วย
(4) เปรียบเทียบข้อเสนอของบริษัทประกันภัย
เมื่อตอบตัวเองได้แล้วว่า ต้องการทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทไหน นอกจากเปรียบเทียบความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ที่เราต้องการแล้ว อย่าลืมพิจารณาข้อเสนออื่น ๆ เพิ่มเติม อาทิ โปรโมชั่นผ่อน 0% เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิต หรือส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมในฐานะลูกค้าใหม่ เป็นต้น
เมื่อรู้แล้วว่าประกันรถยนต์ ชั้น 2 กับประกันรถยนต์ ชั้น 3 ต่างกันอย่างไร ใครที่สนใจซื้อประกันรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ หรือประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+ ฮักส์เป็นโบรกเกอร์มืออาชีพด้านประกันภัยยินดีดูแลพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง แถมการซื้อกับโบรกเกอร์มีข้อดีคือ ไม่ต้องเสียเวลาติดต่อบริษัทประกันหลาย ๆ เจ้าเพื่อมาเปรียบเทียบเอง และถ้าอยากเปลี่ยนบริษัทประกันในปีต่อไปก็สามารถติดต่อกับโบรกเกอร์เจ้าเดิม ให้หาบริษัทประกันใหม่ โปรเจ๋งมาให้ได้ โดยสามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855 เพื่อให้ได้ประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการคุณมากที่สุด
อ้างอิงข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)