6 วัคซีนโควิด-19 ที่ WHO องค์การอนามัยโลกรับรอง
เขียนเมื่อวันที่ 10/07/2021
วัคซีนโควิด-19 ตัวไหนบ้างที่ผ่านการรับรองโดย WHO
ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน วัคซีนโควิดถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแต่การผลิตให้ได้วัคซีนสำหรับการยับยั้งหรือต้านเชื้อเท่านั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ได้รับการฉีดวัคซีนและมีประสิทธิภาพที่ได้มาตรฐาน จะเห็นได้ว่าหลากหลายประเทศทั่วโลกได้มีการผลิตวัคซีนต้านโควิด เนื่องจากโรคระบาดนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ทำให้ต้องมีการคิดค้นตัวยาเพื่อยับยั้ง ลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย ลดโอกาสการแพร่ระบาด และลดอัตราการเสียชีวิต
วัคซีนทั้งหมดต้องได้รับการตรวจสอบจากองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานกำกับดูแลระดับประเทศ ที่ต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดในการทดลอง เพื่อพิสูจน์ว่าวัคซีนชนิดนั้น ๆ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ตกลงกันในระดับสากล โดย WHO และหน่วยงานกำกับดูแลจะมีการติดตามการใช้วัคซีน COVID-19 แต่ละชนิด รวมถึงผลการทดลองอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนจะมีความปลอดภัยสำหรับการใช้งานทั่วโลก หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนแต่ละชนิด จะทำงานโดยการป้องกันโรคตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย เช่น การสร้างระบบภูมิคุ้มกันเพื่อยับยั้งการติดเชื้อไวรัส ป้องกันไม่ให้ผู้คนป่วยหนักหรือเสียชีวิต
วัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนทางองค์การอนามัยโลกได้มีการประเมินและรับรองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่สากลกำหนด รวมถึงมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่ดี สามารถใช้ได้ในทั่วโลก 6 ชนิดด้วยกันคือ
- AstraZeneca/Oxford vaccine (วัคซีนแอสตราเซเนกา)
- Johnson & Johnson (วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน)
- Moderna (วัคซีนโมเดอร์นา)
- Pfizer/BionTech (วัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค)
- Sinopharm (วัคซีนซิโนฟาร์ม)
- Sinovac (วัคซีนซิโนแวค)
ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด
ทำความรู้จักวัคซีน COVID-19 แต่ละยี่ห้อที่ได้รับการรับรอง
AstraZeneca (วัคซีนแอสตราเซเนกา)
วัคซีนโควิดที่คิดค้นโดยบริษัทแอสตราเซเนกา ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในประเทศอังกฤษ และได้รับการอนุมัติใช้งานกว่า 168 ประเทศทั่วโลก มีข้อบ่งใช้สำหรับฉีดเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป วัคซีนมีประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันหลังฉีดเข็มแรก 30 วัน สูงถึง 96.7%
จำนวนการฉีด : 2 โดส ระยะเวลาระหว่างเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกันประมาณ 28 วัน
Johnson & Johnson (วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน)
ผลิตโดยบริษัทยาของ Johnson & Johnson (J&J)ชื่ออย่างเป็นทางการคือ วัคซีน Janssen เป็นการผลิตวัคซีนโดยใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Recombinant viral vector vaccine) มีประสิทธิภาพในการป้องกันอยู่ที่ 66.3% หลังฉีดวัคซีน 14 วัน และ 65.5% หลังฉีดวัคซีน 28 วัน เหมาะสำหรับผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไป และผู้หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป
จำนวนการฉีด : 1 โดส บริเวณกล้ามเนื้อต้นแขน
Moderna (วัคซีนโมเดอร์นา)
วัคซีนโมเดอร์นาที่ผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติอเมริกัน เป็นวัคซีนชนิด mRNA เมื่อฉีดครบโดสวัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงถึง 92.1% และมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้หลากหลายสายพันธุ์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง
จำนวนการฉีด : 2 โดส บริเวณกล้ามเนื้อต้นแขน ระยะเวลาระหว่างเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกันประมาณ 28-42 วัน
Pfizer/BionTech (วัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค)
วัคซีนที่ได้รับการอนุมัติเป็นตัวแรกจากองค์การอนามัยโลก วัคซีนไฟเซอร์มีชื่อทางการว่า BNT162b2 เป็นวัคซีนชนิด mRNA คิดค้นโดยบริษัทไฟเซอร์ร่วมกับบริษัทไอโบเอ็นเท็คสัญชาติเยอรมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป มีประสิทธิภาพหลังจากได้รับครบโดสอยู่ที่ 91.3% และป้องกันความรุนแรงของเชื้อได้ 100%
จำนวนการฉีด : 2 โดส ฉีดบริเวณกล้ามเนื้อแขน ระยะเวลาระหว่างเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกันประมาณ 21-28 วัน
Sinopharm (วัคซีนซิโนฟาร์ม)
วัคซีนซิโนฟาร์มหรือชื่อเป็นทางการคือ วัคซีน BIBP-CorV ผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง (BIBP) เป็นวัคซีนที่ผลิตมาจากเชื้อตาย ในปัจจุบันมีการใช้งานกว่า 41 ประเทศทั่วโลก มีประสิทธภาพสูงถึง 79% หลังจากได้รับวัคซีนครบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
จำนวนการฉีด : 2 โดส ระยะเวลาระหว่างเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกันประมาณ 28 วัน
Sinovac (วัคซีนซิโนแวค)
ซิโนแวคหรือชื่อเป็นทางการคือ วัคซีนโคโรนาแวค (CoronaVac) ผลิตโดยบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค ประเทศจีน เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย ประสิทธิภาพของวัคซีนอยู่ที่ประมาณ 51% และมีประสิทธิภาพ 100% สำหรับกรณีที่มีการติดเชื้อรุนแรงหลังได้รับวัคซีนครบ ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
จำนวนการฉีด : 2 โดส ระยะเวลาระหว่างเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์
ในประเทศไทยได้มีการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนที่ทางองค์การอนามัยโลกรับรองแล้ว 5 บริษัทคือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า, วัคซีนโคโรนาแวค (ซิโนแวค), วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, วัคซีนโมเดอร์นา และวัคซีนซิโนฟาร์ม สำหรับวัคซีนไฟเซอร์อยู่ในระหว่างการประเมินคำขอขึ้นทะเบียนกับทางอย. นอกจากทำความรู้จักวัคซีนแต่ละชนิดประกอบการตัดสินใจสำหรับเลือกฉีดวัคซีนแล้ว ประกันภัยวัคซีนโควิดถือเป็นอีกหนึ่งกรมธรรม์ประกันภัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะครอบคลุมความคุ้มครองจากการฉีดวัคซีนโควิด เช่น ผลกระทบจากการแพ้วัคซีน ค่ารักษาพยาบาลในกรณีโคม่า กรณีที่มีอาการแพ้รุนแรง และเงินชดเชยรายได้เมื่อต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ฮักส์ยินดีให้คำปรึกษาพร้อมมีผลิตภัณฑ์ประกันภัยวัคซีนโควิดหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนยุคใหม่ในสถานการณ์โควิด สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : WHO องค์การอนามัยโลก