เช็คก่อนซื้อ ทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้นไหนดี ความคุ้มครองตรงใจ
เขียนเมื่อวันที่ 17/02/2022
รู้จักรถยนต์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่ของผู้ใช้รถ
นับวันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ทั่วโลกตื่นตัวและเร่งหาวิธีแก้ไขปัญหาต่าง ๆ หนึ่งในนั่นคือมาตรการลดการใช้รถยนต์พลังงานน้ำมัน แล้วหันมาส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ Electric Vehicle (รถ EV) แทน นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ยังลดปริมาณฝุ่นควันและไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์อีกด้วย เป็นผลให้ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามามีบทความสำคัญในวงการยานยนต์โลกและวงการยานยนต์ไทย ทำให้คนไทยหลายคนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานมากขึ้น และคำถามที่ตามมาคือเมื่อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดายังมีประกันภัยรถยนต์คุ้มครอง แล้วรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถทำประกันได้ไหม วันนี้ HUGS Insurance จะพาทุกคนไปไขคำตอบกัน
รถยนต์ไฟฟ้า คืออะไร
เป็นรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในการขับเคลื่อน เมื่อพลังงานไฟฟ้าหมดก็แค่เสียบปลั๊กเพื่อชาร์จเข้าแบตเตอรี่เท่านั้น ไม่แปลกที่คนยุคใหม่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก เพราะช่วยประหยัดค่าน้ำมันและลดปล่อยมลพิษและคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ
รถยนต์ไฟฟ้าทำประกันได้ไหม
คำถามที่ผู้กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ความสนใจนั่นคือประกันภัยรถยนต์คุ้มครองรถ EV ไหม คำตอบ แผนประกันภัยรถยนต์คุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน เพราะรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นยานพาหนะที่ขับขี่บนท้องถนนได้อย่างถูกกฎหมายไม่ต่างจากรถยนต์ประเภทอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าควรพิจารณาเรื่องความคุ้มครองและผลประโยชน์ว่าคุ้มกับค่าเบี้ยประกันรถ EV ที่จ่ายหรือไม่
ทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้นไหนดี คุ้มครองคุ้มค่า
ประกันภัยรถยนต์ช่วยคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดจากการใช้รถ
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1
เป็นแผนประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด เพราะให้ความคุ้มครองทั้งรถคู่กรณีและรถผู้ขับขี่ทุกกรณี โดยมีขอบเขตความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 มีดังนี้
- คุ้มครองต่อความเสียหายชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมรถ รวมถึงภัยธรรมชาติที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2
สำหรับประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองรองลงมาจากประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 โดยมีคุ้มครองหลัก ๆ ดังนี้
- คุ้มครองต่อความเสียหายชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลภายนอกหรือคู่กรณีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
- คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วมกับรถของผู้เอาประกัน
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+
เป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกกรณี ถือว่ามีความใกล้เคียงกับประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 แต่ต่างกันที่ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ คุ้มครองค่าเสียหายเฉพาะกรณีรถชนกับรถเท่านั้น
- คุ้มครองต่อความเสียหายชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินของคู่กรณี
- คุ้มครองค่าเสียหายรถยนต์ผู้เอาประกัน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบรถชนกับรถ
- คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม และภัยธรรมชาติตามกรมธรรม์
เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจ้าหน้าที่ออกใบเคลมประกันให้เพื่อนำรถไปส่งซ่อม
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3
เป็นประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะกับผู้ที่ใช้รถน้อย มีงบประมาณเพียงพอต่อการซ่อมรถ และต้องการเบี้ยประกันราคาประหยัด โดยผู้ทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3 ได้รับความคุ้มครองตามนี้
- คุ้มครองค่าเสียหายเฉพาะรถยนต์คู่กรณีในกรณีรถชนเท่านั้น
- คุ้มครองต่อความเสียหายชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+
เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3 แต่เพิ่มความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนรถเพิ่มเข้าไป โดยประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองความเสียหายรถคู่กรณี ทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี
- คุ้มครองค่าเสียหายของรถเราในกรณีรถชนรถเท่านั้น
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันและผู้โดยสารภายในรถของผู้เอาประกัน
เมื่อพิจารณาข้อมูลข้างต้นพบว่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเลือกทำประกันภัยรถยนต์ได้ทุกชั้น แต่ต้องดูเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยอีกครั้งว่ารับทำประกันภัยรถ EV ยี่ห้อใดบ้าง เช่น บริษัท A รับทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ให้ยี่ห้อ TAKANO MG BMW Mini และ Audi แต่บริษัท B รับเฉพาะรถ EV ยี่ห้อ Porche Audi MG Nissan และ Mini เท่านั้น ส่วนใครที่ใช้งานรถยนต์ธรรมดาอยู่ก็อย่าลืมเช็คว่าต้องต่อประกันภัยรถยนต์และ พ.ร.บ.รถยนต์ หรือยัง หากใกล้เวลาแล้วฮักส์ยินดีให้คำแนะนำการเลือกกรมธรรม์ประกันภัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: HUGS Insurance ช่องทางไลน์ @hugsinsurance หรือ โทร 0 2975 5855