พ่อแม่ต้องรู้ การช่วยเหลือเด็กติดอยู่ในรถ ป้องกันเหตุร้าย
เขียนเมื่อวันที่ 02/02/2022
ผู้ปกครองต้องรู้ เด็กติดในรถ ควรทำอย่างไร
แม้มีบทเรียนกรณีเด็กเสียชีวิตเพราะถูกลืมทิ้งไว้ในรถอยู่เกือบทุกปี แต่ข่าวสลดเช่นนี้ยังมีให้เห็นอยู่ตลอดทั้งไม่มีใครบอกได้ว่าในอนาคตเหตุไม่คาดฝันที่ว่าจะเกิดขึ้นกับตนเองหรือคนใกล้ตัวไหม ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าเศร้า วันนี้ HUGS Insurance มีวิธีแก้ปัญหาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เด็กติดในรถยนต์ รวมถึงวิธีสอนเด็กเพื่อเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ
แนะ 5 วิธีช่วยเหลือเมื่อลืมเด็กในรถ
(1) ตั้งสติให้ดี
ไม่ว่าต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉินแบบใดสิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติให้ดี เพราะหากคุณไม่มีสติย่อมไม่สามารถแก้ไขปัญหาตรงหน้าได้ ทั้งยังอาจนำไปสู่ความสูญเสียที่คาดไม่ถึงอีกด้วย ฉะนั้นเมื่อพบว่าเด็กติดอยู่ในรถ ควรตั้งสติให้ดีแล้วค่อยคิดวิธีแก้ปัญหาเพื่อช่วยเหลือ
(2) รีบทุบกระจกเพื่อนำเด็กออกมาให้เร็วที่สุด
เมื่อคุณพบเด็กติดในรถยนต์ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพที่ยังตื่นหรือหลับอยู่ การทุบกระจกเพื่อนำเด็กออกมาให้เร็วที่สุดถือเป็นวิธีช่วยเหลือที่ดีและรวดเร็วที่สุด เนื่องจากสาเหตุหลักที่เด็กเสียชีวิตไม่ใช่เพราะขาดอากาศหายใจ แต่เกิดจากอุณหภูมิความร้อนสูงที่อยู่ภายในรถ โดยถ้าเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดด 5 นาที อุณหภูมิจะสูงขึ้นจนเด็กไม่สามารถอยู่ได้ ยิ่งผ่านไป 10 นาที ร่างกายจะยิ่งแย่ และถ้าหากติดอยู่ในรถนานกว่า 30 นาทีขึ้นไป เด็กอาจหยุดหายใจ และอวัยวะทุกอย่างหยุดทำงานจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
(3) นำเด็กไปนอนบนพื้นราบที่อากาศปลอดโปร่ง
หลังจากช่วยเหลือเด็กออกมาได้แล้ว ให้รีบนำตัวเด็กไปวางบนพื้นราบบริเวณที่อากาศปลอดโปร่ง เพื่อให้ร่างกายของเด็กได้รับออกซิเจนเข้าร่างกายในปริมาณที่เพียงพอ
(4) โทรแจ้งสายด่วน 1669
รีบโทร 1669 ทันที เพื่อขอความช่วยเหลือจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
หลังจากช่วยเหลือเด็กติดในรถเบื้องต้นแล้ว ให้รีบโทร 1669 เบอร์สายด่วนของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติทันที เพื่อขอความช่วยเหลือและขอคำแนะนำในการดูแลเด็กเบื้องต้น ขณะรอเจ้าหน้าที่มายังที่เกิดเหตุ
(5) ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น
วิธีปฐมพยาบาลคือให้วางส้นมือข้างใดข้างหนึ่งไว้ตรงกลางหน้าอกระดับราวนม แล้วใช้มืออีกข้างวางบนหน้าผากของเด็กโดยพยายามให้หงายหน้าส่วนล่างขึ้นเพื่อเปิดทางเดินหายใจ จากนั้นกดลงบนหน้าอกให้ได้ระยะ 1/3 ของความลึกจากผิวหน้าอก ทำซ้ำไปจำนวน 30 ครั้งต่อเนื่องโดยไม่มีหยุด และทำการปฐมพยาบาลไปจนกว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือและนำเด็กส่งโรงพยาบาล
รู้ก่อนสาย 3 ทริคสอนเด็กเอาตัวรอด เมื่อติดอยู่ในรถ
(1) สอนเปิดประตูรถ
คุณพ่อคุณแม่ควรสาธิตวิธีเปิดประตูรถให้ลูกดูเป็นตัวอย่างแล้วค่อยสอนให้ลองทำตามทีหลัง เพื่อให้เจ้าตัวน้อยได้เรียนรู้และจดจำการปลดล็อคประตูรถว่าต้องกดปุ่มตรงไหน ถึงจะเปิดประตูรถได้
(2) สอนให้เปิดปิดกระจกรถยนต์
นอกจากการเปิดประตูรถแล้ว ผู้ปกครองควรสอนการเปิดกระจกรถเพื่อให้ภายในรถมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หากติดอยู่ในรถยนต์ที่ไม่ได้เปิดกระจกไว้ย่อมทำให้เด็กมีโอกาสเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจสูง โดยฝึกลูกน้อยกดสวิตช์เปิดปิดกระจกรถยนต์ระบบไฟฟ้า ด้วยการกดสวิตช์เปิดกระจกให้ลูกดูเป็นตัวอย่างแล้วลองทำตาม
(3) บีบแตรรถขอความช่วยเหลือ
การบีบแตรให้เป็นจังหวะหรือนานที่สุดเท่าที่ทำได้ ถือเป็นการสร้างความสนใจให้ผู้คนโดยรอบรถให้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติก่อนเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
3 ข้อควรจำก่อนลงรถ เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ
ก่อนล็อคประตูรถ ควรเช็คด้านในรถก่อนทุกครั้ง
วิธีช่วยเหลือและเทคนิคเอาตัวรอดที่ควรสอนเด็กเพื่อช่วยชีวิตตัวเองหากติดอยู่ในรถ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น ฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข่าวสลดขึ้นมาอีก ผู้ปกครอง พนักงานขับรถรับ-ส่งนักเรียน และครูอาจารย์ ควรปฏิบัติตัวตามนี้
(1) นับจำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง
(2) ก่อนล็อคประตูรถควรตรวจดูให้ทั่วรถอีกครั้งว่ายังมีใครอยู่บนรถหรือไม่
(3) อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้จะลงไปทำธุระแค่เพียงเวลาสั้น ๆ
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นทั้งนั้น หากผู้ใหญ่มีสติไม่ประมาทโอกาสเกิดเรื่องเศร้าย่อมน้อยตามไปด้วย นอกเหนือจากนี้ความปลอดภัยขณะขับรถก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ใช้รถควรทำประกันภัยรถยนต์ไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉิน โดยสามารถเปรียบเทียบแผนประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3 หรือประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+ ได้ที่ ฮักส์ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ที่มีผลิตภัณฑ์ประกันหลากหลายบริษัทให้เลือกสรร สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทาง Facebook: HUGS Insurance หรือทางช่องทางไลน์ @hugsinsurance หรือโทร 0 2975 5855