ข้อควรรู้ ใบขับขี่หายต้องสอบใหม่ไหม คนมีรถศึกษาให้ดี
เขียนเมื่อวันที่ 17/02/2022
คนขับรถต้องรู้ ใบขับขี่หายต้องทำใหม่อย่างไร
ใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับขี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นศักยภาพในการขับรถร่วมกับผู้อื่นบนท้องถนนได้ และยังใช้สำหรับแสดงตัวของผู้ขับขี่เมื่อมีกรณีพิพาทจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ใบขับขี่จึงมีความสำคัญอย่างมาก คนที่มีรถและขับรถเป็นต้องมีใบขับขี่ทุกคน
สาเหตุของการทำใบขับขี่ใหม่
ใบขับขี่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ หากเกิดปัญหากับใบขับขี่ใบเดิมต้องทำใหม่ทันที เพราะการขับขี่โดยไม่มีใบขับขี่มีบทลงโทษตามกฎหมาย กรณีที่มักเกิดขึ้นแล้วต้องทำใบขับขี่ใหม่มีดังนี้
- ใบขับขี่เดิมสูญหาย
การสูญหายนี้ไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าเกิดจากความประมาทหรือจากการโดนขโมย แต่เมื่อเจ้าของบัตรทราบว่าใบขับขี่นั้นหายไปจะต้องดำเนินการทำใหม่ให้เร็วที่สุด
- ใบขับขี่เดิมถูกขโมย
การขโมยสิ่งของมีค่ามักจะสูญหายทั้งกระเป๋า และภายในกระเป๋านั้นมีสิ่งมีค่าหลายอย่าง รวมถึงใบขับขี่ด้วย เมื่อพบว่าของถูกขโมยจะต้องแจ้งความและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
- ใบขับขี่เดิมหมดอายุ
ใบขับขี่จะมีอายุการใช้งาน โดยปกติจะมีใบขับขี่อายุการใช้งาน 1 ปี 5 ปี และใบขับขี่ตลอดชีพ หากใบขับขี่หมดอายุจะต้องไปทำเรื่องขอทำใบขับขี่ใหม่ก่อนใบขับขี่หมดอายุ
การขับขี่จะต้องระมัดระวังและคำนึงถึงหลายอย่าง ทั้งเรื่องใบขับขี่ ความชำนาญในเส้นทางและการขับรถ รวมถึงการทำประกันภัยรถยนต์ด้วย เพื่อให้การขับขี่บนท้องถนนราบรื่นและอุ่นใจมากที่สุด ซึ่งการทำประกันภัยรถยนต์จะช่วยคุ้มครองยามเกิดอุบัติเหตุ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ และมีคนคอยไกล่เกลี่ยในสถานการณ์รถชน ผู้มีรถทุกคนจึงควรมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมเอาไว้เพื่อความคุ้มครองอีกระดับบนท้องถนน
ขั้นตอนการทำใบขับขี่อย่างละเอียด
การจัดสถานที่ทดสอบผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่
การทำใบขับขี่สามารถทำได้ที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งการทำใบขับขี่จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่ ผู้ที่ทำใบขับขี่ครั้งแรก และผู้ที่มีใบขับขี่ในระบบอยู่แล้ว
การทำใบขับขี่ครั้งแรก
ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป แล้วมีความสามารถในการขับขี่รถแต่ละประเภทจะต้องยื่นเรื่องขอทำใบขับขี่ เพื่อวัดประสิทธิภาพในการขับรถว่าสามารถขับรถร่วมกับผู้อื่นได้ รู้กฎจราจรเป็นอย่างดี การทำใบขับขี่ครั้งแรกควรปฏิบัติ ดังนี้
- ลงทะเบียนขอสอบใบขับขี่
การลงทะเบียนเพื่อทำเรื่องขอสอบใบขับขี่ในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายผ่านช่องทาง DLT ออนไลน์ ซึ่งเป็นเว็บไวต์ของกรมการขนส่งทางบกเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปกดบัตรคิวที่สำนักงานตั้งแต่เช้า และลดความแออัด ลดความเสี่ยงติดโควิดด้วย
- ยื่นเอกสารและทดสอบสมรรถภาพ
เอกสารที่ใช้ในการทำใบขับขี่ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน และใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน นำไปยื่นให้พนักงาน จากนั้นจะทำการทดสอบสมรรถภาพเบื้องต้น เช่น ทดสอบตาบอดสี ทดสอบการมองเชิงลึก ทดสอบการเหยียบเบรก
- อบรมเกี่ยวกับการขับขี่และกฎจราจร
หลังจากผ่านการคัดกรองเรื่องสมรรถภาพแล้ว ผู้เข้าสอบจะต้องอบรมเกี่ยวกับกฎจราจรและมารยาทในการขับขี่ เพื่อนำความรู้นี้ไปปรับใช้ในการขับรถจริงและสอบข้อเขียนต่อไป
- สอบข้อเขียน
การสอบข้อเขียนเป็นการนำความรู้ที่ได้จากการอบรมมาตอบลงในข้อสอบ ผู้เข้าสอบจะต้องทำคะแนนให้ได้ 45 คะแนน จากทั้งหมด 50 ข้อ คิดเป็น 90% ของคะแนนทั้งหมด หากไม่ผ่านจะต้องมาสอบในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วันนับตั้งแต่วันอบรม
- สอบปฏิบัติ
การสอบปฏิบัติเป็นการขับรถประเภทที่ตนเองต้องการทำใบขับขี่ให้เจ้าหน้าที่ดู ซึ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์จะมีเส้นทางการขับแตกต่างกัน เช่น รถจักรยานยนต์จะต้องขับในทางซิกแซกได้โดยไม่ชนกรวยล้ม ขณะที่รถยนต์จะต้องถอยรถเข้าซองได้โดยปลอดภัย เส้นทางในการทดสอบของรถแต่ละประเภทจะแจ้งก่อนการทดสอบจริง
- รอฟังผลและรับใบขับขี่
เมื่อขับรถให้เจ้าหน้าที่ดูแล้วจะได้รับการแจ้งผลว่าสอบผ่านหรือไม่ หากไม่ผ่านจะต้องฝึกฝนเพิ่มเติมก่อนมาสอบใบขับขี่ใหม่ แต่หากผ่านผู้เข้าสอบจะต้องไปชำระค่าธรรมเนียมและรับใบขับขี่กลับบ้านได้เลย
ขั้นตอนในการสอบใบขับขี่ไม่ซับซ้อน แต่ค่อนข้างใช้เวลา การทำใบขับขี่ใหม่ใช้เวลาทั้งวัน ผู้เข้าสอบจึงควรจัดการเวลาให้ดี
การทำใบขับขี่ของผู้ที่มีใบขับขี่อยู่แล้ว
ผู้ที่เคยสอบใบขับขี่อยู่แล้วจะต้องมาต่ออายุใบขับขี่ หรือทำใบขับขี่ใหม่เมื่อเกิดการสูญหาย มีวิธีการปฎิบัติ ดังนี้
- ลงทะเบียนขอทำใบขับขี่ในเว็บไซต์ DLT เพื่อประหยัดเวลาในการทำใบขับขี่
- ยื่นบัตรประจำตัวประชาชน และใบรับรองแพทย์ที่อายุไม่เกิน 1 เดือนให้เจ้าหน้าที่
- ตรวจคัดกรองเบื้องต้นและทดสอบสมรรถภาพเบื้องต้น
- อบรมกฎจราจรที่ควรรู้ในการขับขี่ ซึ่งการอบรมของกลุ่มผู้ที่เคยทำใบขับขี่มาแล้วจะใช้เวลาน้อยกว่าผู้ที่เพิ่งทำใบขับขี่ครั้งแรก
- จ่ายค่าธรรมเนียมและรอรับใบขับขี่ได้เลย
ผู้ที่เคยมีใบขับขี่แล้วทำหายจึงไม่ต้องสอบใหม่ เพราะระบบมีรายชื่อและรายละเอียดใบขับขี่อยู่แล้ว สามารถเข้าทำใบขับขี่ใหม่ได้เลย และไม่ต้องมีใบแจ้งความ สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้เลยว่าใบขับขี่หาย นอกจากเรื่องใบขับขี่หายที่ต้องกัวลแล้ว เรื่องอุบัติเหตุก็ต้องกังวลเช่นกัน ประกันภัยรถยนต์หลายตัวจึงมุ่งเน้นการคุ้มครองที่คลอบคลุมมากขึ้นในกรณีรถมีปัญหาต้องเปลี่ยนอะไหล่ เกิดเป็นประกันภันอะไหล่รถยนต์ที่เหมาะกับผู้ที่มีรถ และไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายแพง ๆ ไปกับอะไหล่ ควรทำประกันภัยอะไหล่รถยนต์เอาไว้ ปรึกษาฮักส์เพิ่มเติมได้ที่ Facebook หรือไลน์ @hugsinsurance หรือโทร 0 2975 5855