ต้องรู้ สัญลักษณ์เส้นบนถนน วิ่งทับชีวิตเปลี่ยน เสี่ยงมีโทษ

เขียนเมื่อวันที่ 02/03/2022

ไขข้อข้องใจ สัญลักษณ์จราจรพื้นถนนมีไว้ทำไม

เชื่อว่าผู้ใช้รถใช้ถนนคงคุ้นเคยกับเครื่องหมายจราจรที่อยู่บนพื้นถนนและตามข้างถนนไม่น้อย โดยสัญลักษณ์ดังกล่าวล้วนเป็นตัวบอกทิศทางและกำหนดการเคลื่อนที่ของรถ ซึ่งส่วนมากได้เรียนรู้ก่อนไปสอบใบขับขี่หรือตามอินเทอร์เน็ตเวลาที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนอาจลืมไปแล้วว่าเส้นจราจรที่เห็นจนชินตามีความหมายว่าอย่างไร วันนี้ HUGS Insurance ขอพาทุกคนไปทบทวนความรู้เกี่ยวกับเส้นจราจร ทั้งเครื่องหมายเส้นประ เส้นจราจรสีเหลืองกลางถนน ไปจนถึงเส้นสีขาวทึบข้างถนนว่าคืออะไร เห็นแล้วต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

ทำความรู้จักสัญลักษณ์เส้นบนถนนที่ทุกคนควรรู้

เส้นแบ่งเดินรถประจำทาง

เส้นแบ่งเดินรถประจำทางหรือเส้นช่องเดินรถเมล์ เป็นเส้นทึบสีเหลืองกลางถนนมีขนาดกว้าง 20 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 30 เซนติเมตร โดยช่องทางนี้มีไว้สำหรับรถประจำทางวิ่งเท่านั้น รถประเภทอื่นห้ามขับเข้ามาเลนนี้ เว้นแต่รถที่ขับเข้าออกจากซอยหรือเลี้ยวเท่านั้น

เส้นแบ่งทิศทางจราจรคู่

เส้นแบ่งจราจรเเบบคู่ เป็นเส้นทึบสีขาวขนานกับเส้นประสีขาว เมื่อเจอเส้นแบบนี้รถยนต์ที่อยู่ฝั่งเส้นประสามารถขับข้ามเส้นหรือแซงได้เมื่อปลอดภัย ส่วนรถฝั่งเส้นทึบห้ามแซงเด็ดขาด

ทางม้าลาย

ทางม้าลายเป็นพื้นที่พิเศษให้สิทธิคนเดินข้ามอย่างปลอดภัย

ทางม้าลายเป็นพื้นที่สำหรับให้คนข้าม โดยมีลักษณะเป็นแทบสีขาวหลาย ๆ แถบขวางทางเดินรถ หรือเป็นเส้นทึบสีขาวสองเส้นขนานกันขวางทางเดิน และมีเส้นแนวหยุดรถ เมื่อผู้ขับขี่เห็นทางม้าลายต้องชะลอความเร็วและหยุดรถก่อนถึงเส้นแนวหยุดเพื่อให้คนเดินข้ามทางม้าลายแล้วเคลื่อนรถต่อไป หากผู้ขับขี่ไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดตามมาตรา 152 ของพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ที่มีใจความสำคัญว่า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท 

นอกจากนี้หากการฝ่าฝืนไม่หยุดหรือชะลอรถตรงทางม้าลาย จนเป็นเหตุให้ผู้ข้ามได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต หรือทรัพย์สินเสียหาย ผู้ขับขี่ต้องได้รับโทษทางอาญาด้วย

เส้นซิกแซก

เส้นหยักหรือเส้นซิกแซก เป็นเส้นเตือนผู้ขับขี่ให้ชะลอและลดความเร็วก่อนถึงเขตข้ามทางม้าลาย เพื่อให้คนข้ามถนนได้ข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย

เส้นทแยงสำหรับทางแยก

เส้นทึบสีเหลืองขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร ลากทแยงตัดกันทำมุม 45 องศา ห่างกัน 200 เซนติเมตร ภายในกรอบเส้นทึบสีเหลืองขนาดกว้าง 20 เซนติเมตร นี่คือสัญลักษณ์จราจรที่บ่งบอกว่าห้ามหยุดรถทุกชนิดภายในกรอบเส้นทแยงนี้เด็ดขาด ยกเว้นรถที่หยุดเพื่อรอเลี้ยวขวา

สัญลักษณ์ทางจราจร ช่วยสร้างระเบียบวินัยในการขับขี่

เส้นทึบสีเหลืองเดี่ยวหรือคู่

เมื่อพบเห็นเส้นทึบสีเหลืองเดี่ยวหรือคู่หรือเส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถไปทางด้านซ้ายของเส้นเท่านั้น ห้ามขับรถคร่อมเส้นและแซงโดยเด็ดขาด

เส้นแบ่งทิศทางจราจรเตือน

เป็นเส้นประสีขาวที่ยาวและมีความถี่ขึ้น เพื่อเตือนผู้ขับขี่ว่านี่คือเขตทางข้ามแยก เขตห้ามแซง ให้ขับรถภายในช่องทางเดินรถตามปกติ ยกเว้นต้องการเปลี่ยนช่องทางเดินรถหรือกลับรถเท่านั้น แต่เวลาขับข้ามเส้นให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

เส้นแบ่งทิศทางจราจรเดินรถห้ามแซง

ในส่วนของเส้นแบ่งทิศทางจราจรเดินรถห้ามแซงหรือเส้นแบ่งทิศทางจราจรนั้น เป็นเส้นสีขาวขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร เมื่อพบเส้นจราจรลักษณะนี้ บ่งบอกว่าห้ามคุณขับรถแซง ขับคร่อมเส้น หรือกลับรถโดยเด็ดขาด

เส้นประสีขาว 

สำหรับเส้นประสีขาวหรือเส้นแบ่งทิศทางจราจรปกติ เป็นเส้นสีขาวมีขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร ยาว 200 เซนติเมตร และเว้นระยะห่างกัน 200  เซนติเมตร เมื่อพบเห็นเส้นประสีขาวนั่นหมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถภายในช่องทางเดินรถหรือช่องจราจรตามปกติ ห้ามขับรถคร่อมเส้นเด็ดขาด เว้นแต่ต้องการเปลี่ยนช่องเดินรถเมื่ออยู่ในระยะปลอดภัย

เครื่องหมายจราจรบนพื้นถนน ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

เส้นทึบสีขาวข้างถนน

เส้นสีขาวทึบข้างถนน คือพื้นที่ที่ถูกเว้นเอาไว้เพื่อให้รถฉุกเฉินขับผ่านหรือรถที่เสียจอดข้างทางระหว่างรอความช่วยเหลือ โดยเส้นทึบสีขาวอยู่ตรงบริเวณขอบทางด้านซ้ายของถนน

แถบสีเหลืองสลับขาวที่ขอบทาง

แถบสีเหลืองสลับขาวสามารถพบเห็นได้ตามขอบทางหรือขอบฟุตบาทด้านซ้ายของทางเดินรถ นี่เป็นเครื่องหมายห้ามจอดรถทุกชนิดระหว่างแนวเขตดังกล่าว เว้นแต่การหยุดรถรับ-ส่งผู้โดยสารหรือการส่งของที่ใช้ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

แถบสีแดงสลับขาวที่ขอบทาง

ขอบฟุตบาทสีแดงสลับขาวเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าห้ามหยุดรถหรือจอดรถทุกชนิดที่บริเวณนี้ ทั้งห้ามผู้โดยสารเรียกรถโดยสารทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นรถตู้ รถแท็กซี่ หรือรถรับจ้างอื่น ๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการจราจรได้

แถบสีดำสลับขาวที่ขอบทาง

เมื่อเห็นขอบทางสีดำสลับขาวแสดงว่าคุณสามารถจอดรถได้แต่ต้องชิดขอบทาง แต่ถึงอย่างนั้นอาจโดนจับในกรณีจอดรถไม่ชิดขอบทาง จอดรถบนคอสะพาน จอดรถซ้อนคัน หรือจอดบริเวณที่มีเครื่องกั้นห้ามจอดรถที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาตั้งไว้ เป็นต้น

นี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของเครื่องหมายบนท้องถนนที่เรานำมาฝาก เนื่องจากยังมีสัญลักษณ์และป้ายอีกมากมายที่อยู่บนถนนซึ่งผู้ขับขี่ต้องเรียนรู้เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการขับขี่ รวมถึงช่วยให้คุณขับรถได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นการใช้รถใช้ถนนยังคงมีความเสี่ยง ดังนั้นเพื่อความอุ่นใจควรมีประกันภัยรถยนต์และประกันภัยอะไหล่รถยนต์ติดไว้ เพราะประกันภัยรถยนต์ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งเรื่องค่าซ่อมรถ มีบริการให้รถสำรองขับขณะซ่อม และค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะที่ประกันภัยอะไหล่รถยนต์เข้ามาคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่และการซ่อมแม้รถของคุณหมดความคุ้มครองจากศูนย์ซ่อมแล้วก็ตาม เมื่อรู้แบบนี้แล้วใครที่สนใจประกันภัยเกี่ยวกับรถยนต์สามารถปรึกษาฮักส์ โบรกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยได้หลายช่องทาง ทั้ง Facebook หรือไลน์ @hugsinsurance หรือโทร 0 2975 5855

อ้างอิงข้อมูล : พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522