เทคนิคซื้อรถมือสอง ไม่โดนย้อมแมวหลอกขาย
เขียนเมื่อวันที่ 10/07/2021
แนะวิธีดูรถยนต์มือสอง ไม่ให้โดนหลอก
เมื่อหลายคนอยากเดินทางไปเรียน ทำงาน กลับบ้าน หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัดแบบสะดวกสบาย ทำให้ตัดสินใจซื้อรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเป็นพาหนะในการเดินทาง แต่ในยุคที่เกิดวิกฤตโควิด-19 รายได้ของแต่ละครอบครัวลดลง บางคนต้องวางแผนใช้จ่ายอย่างรัดกุม รถใหม่ป้ายแดงอาจไม่ใช่คำตอบที่ใช่สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์สักคัน ส่งผลให้รถมือสองเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจ ทั้งรถมือสองเจ้าของขายเองหรือจากเต็นท์รถ
แต่การซื้อรถมือสองไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่มีประสบการณ์อาจพลาดท่าได้รถมือสองที่ไม่มีคุณภาพมาใช้งาน สุดท้ายแทนที่จะได้รถมาขับกลับเป็นการซื้อรถมาซ่อมแทน เพื่อป้องกันการโดนย้อมแมว วันนี้เรามีทริคดี ๆ ให้ศึกษาก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสองมาฝาก
รถมือสองมีกี่ประเภท ซื้อแบบไหนดี
รถยนต์มือสองมีให้เลือกซื้อ 2 ประเภท คือ รถบ้านกับรถเต็นท์ มีความแตกต่างกัน ดังนี้
รถบ้าน
เป็นการซื้อขายรถยนต์ระหว่างเจ้าของรถกับผู้ซื้อโดยตรง การซื้อรถมือสองลักษณะนี้มีข้อดีคือผู้ซื้อสามารถถามประวัติรถกับเจ้าของได้โดยตรงว่าเคยประสบอุบัติเหตุ หรือโดนน้ำท่วมมาก่อนหรือไม่ ข้อเสียคือเป็นการซื้อขายรถยนต์ตามสภาพและความพึงพอใจของผู้ขาย และผู้ซื้อต้องหาแหล่งเงินกู้ รวมถึงดำเนินการเอกสารต่าง ๆ ด้วยตนเอง
รถเต็นท์
เป็นการซื้อขายรถมือสองผ่านคนกลางหรือนายหน้าที่รับรถไปขาย ข้อดีคือมีรถยนต์หลายรุ่น หลายยี่ห้อให้ผู้ที่สนใจซื้อรถมือสองได้ไปเลือกดู รถอยู่ในสภาพดีทั้งภายในและภายนอก มีคนประสานงานเรื่องเอกสารและสถาบันการเงินให้ แต่มีข้อเสียตรงที่ไม่รู้ว่ารถเคยชนหนักมาก่อน ผู้ขายบอกแค่ว่าเคยทำสีตรงนี้ตรงนั้นเพราะถูกรถคันอื่นเบียดมาเล็กน้อย นอกจากนี้อาจมีค่าบริการในการจัดไฟแนนซ์ด้วย
ซื้อรถบ้านหรือเลือกรถเต็นท์ดีกว่ากัน ?
คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะผู้ซื้อรถมือสองต้องพิจารณาข้อดี-ข้อเสียรถบ้านกับรถเต็นท์ ควบคู่กับการดูสภาพตัวรถที่เป็นอยู่ว่าสอดคล้องกับราคาหรือไม่ ในการเลือกซื้อรถมือ 2 มาใช้งาน
ก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสอง ควรตรวจเช็คอะไรบ้าง
ตรวจสอบสภาพรถโดยรอบ
เบื้องต้นควรดูสภาพภายนอกรถยนต์รอบ ๆ คัน ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วน รอยบุบ รอยสีแตก รอยสนิม สภาพซีลยางรถรอบ ๆ คันมีรอยแตก เสื่อมสภาพแล้วหรือยัง ตรวจดูวันเดือนปีของยางและสภาพโดยรวม ตรวจสอบฝากระโปรง ประตู กันชนหน้า-หลัง ว่าเคยผ่านการถอดแล้วประกอบชิ้นส่วนเข้าไปใหม่หรือไม่ ถ้ามีการประกอบชิ้นส่วนเหล่านี้ ให้สันนิษฐานว่ารถยนต์คันดังกล่าวเคยถูกชนหนักมาก่อน
ตรวจสอบสภาพรถภายใน
การตรวจสอบสภาพภายในรถยนต์ ให้ดูว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ ทั้งกระจกไฟฟ้า ระบบไฟส่องสว่าง เครื่องเสียง แอร์ทำความเย็นได้อยู่หรือไม่ ในส่วนสภาพของเบาะนั่งก็ควรตรวจดูว่ามีรอยแตก รอยฉีกหรือไม่ นอกจากนี้กลิ่นภายในรถก็สำคัญ ถ้ามีกลิ่นอับชื้นหรือมีเชื้อราบริเวณชุดพรมรองพื้น ให้คาดการณ์ไว้ว่ารถคันนี้เคยลุยน้ำท่วมมาก่อน
ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์รถมือสอง
เครื่องยนต์
การตรวจสอบความฟิตของเครื่องยนต์ก็สำคัญ วิธีการเช็คง่าย ๆ ให้ผู้ซื้อลองสตาร์ทรถดูตอนเครื่องเย็นว่าติดง่ายหรือติดยาก ถ้ารถสตาร์ทติดยากแสดงว่ารถยนต์คันดังกล่าวอาจมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่หรือไดสตาร์ท
ตรวจสอบเลขไมล์และปีของรถยนต์
การตรวจสอบเลขไมล์รถว่าสอดคล้องกับปีที่ผลิตรถยนต์หรือไม่ ช่วยให้รู้สภาพความสมบูรณ์ของรถยนต์ โดยปกติรถที่ใช้งานปกติเลขไมล์อยู่ที่ 30,000 กิโลเมตร ภายใน 1 ปี หากว่าเลขไมล์น้อยกว่า 5,000 กิโลเมตร ให้ตรวจสอบกับผู้ขายว่าเป็นเลขไมล์แท้ หรือมีการกรอไมล์ให้ดูเหมือนรถใช้งานมาน้อย เพื่ออัพราคา
ตรวจสอบเล่มทะเบียนรถและสมุดการรับประกัน
สมุดคู่มือการจดทะเบียนหรือเล่มทะเบียนรถ เป็นเอกสารสำคัญที่บ่งบอกว่า รถคันนี้มีใครเป็นเจ้าของบ้าง เป็นรถยนต์จดประกอบ หรือมีการดัดแปลงสภาพรถหรือไม่ ส่วนข้อมูลในสมุดการรับประกันช่วยให้รู้ว่ารถยนต์เคยผ่านการซ่อมบำรุงอะไรมาบ้าง หรือเข้าศูนย์ตรวจเช็ครถตามระยะอย่างสม่ำเสมอไหม
ทดลองขับก่อนซื้อ
แน่นอนว่าการสร้างความมั่นใจก่อนซื้อรถด้วยการทดลองขับ ถือเป็นการตรวจสอบสมรรถภาพรถโดยรวมว่าเป็นอย่างไร ทั้งจังหวะการเร่งความเร็ว เบรก หักเลี้ยว การทำงานของเกียร์ และฟังเสียงช่วงล่วงหรือเครื่องยนต์ขณะวิ่ง ว่ามีจุดไหนผิดปกติหรือไม่
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
กรณีซื้อรถมือสองจากเต็นท์รถ ควรตรวจสอบว่ามีเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีประวัติหลอกลูกค้าไหม มีการดูแลลูกค้าเป็นอย่างไร แต่ถ้าซื้อรถบ้านให้ดูว่าใครเป็นเจ้าของ มีประวัติการใช้รถอย่างไร
ซื้อรถมือสองประกันภัยรถยนต์เดิมคุ้มครองต่อไหม
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนดให้เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคันต้องทำประกันภัยภาคบังคับ หรือที่เรียกว่า "ประกัน พ.ร.บ." ถ้าไม่ทำถือว่าผิดกฎหมาย รถมือสองก็ถูกบังคับทำประกัน พ.ร.บ. รถยนต์เช่นเดียวกัน เมื่อซื้อรถมือสองความคุ้มครองเดิมที่ติดมาสามารถใช้ต่อเนื่องได้ทันที
แต่ถ้าเป็นประกันภัยรถยนต์หรือประกันภัยภาคสมัครใจ สามารถโอนความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยให้กับเจ้าของรถคนใหม่ได้เลย ถ้าเป็นการทำประกันภัยรถยนต์แบบไม่ระบุผู้ขับขี่ ส่วนกรณีประกันภัยรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่ ผู้ทำประกันภัยรถเดิมต้องแจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบว่า มีการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่เพื่อให้บริษัทปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันภัยตามสภาพความเสี่ยงภัยที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับใครที่ซื้อรถมือสองมาแล้ว แต่ไม่มีประกันภัยรถยนต์ติดรถมาด้วยและอยากหาแผนประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะกับรถของคุณ สามารถเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์พร้อมเปรียบเทียบแผนประกันภัยผ่าน Hugs Insurance โบรกเกอร์ที่มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายบริษัทให้เลือก สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ 0 2975 5855 และอย่าลืมติดตามฮักส์ได้ที่ Facebook หรือเพิ่มเพื่อนในช่องทาง Line
อ้างอิงข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย