ศึกษาให้ดี ขายรถโอนลอย อันตรายไหม ระวังมีปัญหาภายหลัง
เขียนเมื่อวันที่ 23/02/2022
ระวังให้ดี โอนลอย ไม่โอนกรรมสิทธิ์ เสี่ยงเจอปัญหาเพียบ
เมื่อซื้อขายรถยนต์มือสองสิ่งที่ตามมาคือการโอนกรรมสิทธิ์หรือโอนเปลี่ยนจากชื่อผู้ครอบครองคนเดิมไปยังผู้ครอบครองคนใหม่ ซึ่งทุกวันนี้มีการโอนรถที่นิยมใช้อยู่ คือ การโอนกรรมสิทธิ์รถแบบโอนตรง และการโอนกรรมสิทธิ์รถแบบโอนลอย แต่เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า "โอนลอย" มากกว่า แล้ววิธีนี้มีความปลอดภัยจริงไหม มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร วันนี้ HUGS Insurance ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการโอนลอยรถยนต์มาฝาก
โอนลอย คืออะไร
เป็นการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เพื่อเปลี่ยนเจ้าของ โดยผู้ขายไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโอนรถที่กรมการขนส่งทางบกด้วยตนเอง เพียงเซ็นเอกสารใบมอบอำนาจให้เรียบร้อย แต่ยังไม่ใส่ชื่อผู้รับโอนเข้าไป จากนั้นฝั่งผู้ซื้อก็ไปดำเนินการเรื่องโอนรถด้วยตัวเองที่กรมขนส่งทางบกแทน
การโอนลอยรถ มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร
ข้อดี
(1) สะดวกสบาย รับเงินได้ทันที
หลังผู้ซื้อผู้ขายตกลงราคารถได้เรียบร้อย เพียงผู้ขายเซ็นเอกสารการโอนรถ รวมถึงใบมอบอำนาจให้แก่ผู้ซื้อก็สามารถรับเงินจากขายรถได้ทันที โดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องเสียเวลาไปทำการโอนที่กรมการขนส่งทางบก
(2) เซฟค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการโอนรถ
แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาเมื่อคุณไปดำเนินการโอนรถที่กรมการขนส่งทางบกก็คือ ค่าโอนรถหรือค่าธรรมเนียมนั่นเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมให้พร้อมมีดังนี้
- ค่าคำขอ : 5 บาท
- ค่าธรรมเนียมการโอน : 100 บาท
- ค่าอากรแสตมป์ : 500 บาทต่อราคาประเมินทุก 100,000 บาท
- ค่าเปลี่ยนป้ายทะเบียน : 200 บาท (กรณีที่ผู้ซื้อต้องการเปลี่ยน)
- ค่าเปลี่ยนเล่มทะเบียน : 100 บาท (กรณีเล่มทะเบียนเก่าหรือชำรุดฉีกขาด)
(3) ผู้ขายไม่ต้องเสียเวลาเดินเรื่องเอง
หากคุณขายรถยนต์เองโดยไม่ผ่านคนกลาง การโอนลอยรถช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ดีทีเดียว เพราะคุณสามารถนัดซื้อขายที่ไหน แค่ต้องจัดการในเรื่องของเอกสารการโอนและมอบอำนาจให้ครบถ้วน เพื่อให้ผู้ซื้อหรือเจ้าของรถคนใหม่ไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์รถที่กรมการขนส่งทางบกเอง
ข้อเสีย
(1) เสี่ยงต้องรับผิดแทนในคดีอาญา
เมื่อขายรถด้วยวิธีการโอนลอยไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่เปลี่ยนชื่อเจ้าของใหม่ แล้วปรากฎว่าผู้ซื้อนำรถไปก่ออาชญากรรม ทำผิดกฎจราจร หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นมา นั่นแหล่ะความเดือดร้อนกำลังมาเยือนคุณ เพราะรถยนต์คันที่เกิดเหตุยังเป็นชื่อคุณอยู่
(2) ยุ่งยากเรื่องเอกสาร
กรณีนี้เป็นความยุ่งยากที่เกิดขึ้นกับฝั่งผู้ซื้อที่ซื้อรถยนต์มือสองไว้นานแล้วไม่ยอมดำเนินการโอนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองใหม่ แล้วสำเนาบัตรประชาชนของผู้ขายหมดอายุ ส่งผลให้ผู้ซื้อต้องขอเอกสารใหม่กับฝั่งผู้ขาย แน่นอนว่าหากผู้ขายพักอยู่ที่เดิมคงไม่มีปัญหาในการตามตัวเพื่อขอเอกสารใหม่
ผู้ขายควรเก็บเอกสารสัญญาซื้อขายรถโอนลอย เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง
ขายรถโอนลอยอย่างไร ให้ไม่มีปัญหาตามมา
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังขายรถโดยการโอนลอยให้ปลอดภัย ควรตระเตรียมเอกสารสัญญาซื้อขายและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้รัดกุม เพื่อป้องกันปัญหาตามมาในภายหลัง
(1) เจ้าของเอกสารตรงกับชื่อผู้ครอบครองพาหนะล่าสุดในเล่มทะเบียน
(2) สำเนาเอกสารทั้งหมดต้องมีการเซ็นสำเนาถูกต้อง กำกับชื่อ พร้อมขีดคร่อม “ใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวข้องกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน xxxx เท่านั้น” ที่สำคัญชื่อตรงกับผู้ครอบครองพาหนะล่าสุดในเล่มทะเบียน
(3) ลายเซ็นผู้โอนในใบคำขอโอนและหนังสือมอบอำนาจ
(4) ในสัญญาซื้อขายให้ระบุว่ายังไม่ได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ควรมีพยานเซ็นด้วย
(5) เช็ควันที่บัตรประชาชนหมดอายุในสำเนา
(6) ผู้ซื้อและผู้ขายควรเก็บเอกสารซื้อขายไว้คนละฉบับ
(7) ผู้ขายควรขอสำเนาบัตรประชาชนของผู้ซื้อเอาไว้ เพราะเมื่อเกิดคดีความก่อนที่จะมีการโอนอย่างถูกต้อง เจ้าของรถคนเดิมสามารถนำเอกสารเหล่านี้มายืนยันได้ว่ามีการขายไปแล้ว
แน่นอนว่าการซื้อขายรถยนต์แบบโอนลอยนั้นมีความคล่องตัวอย่างมากสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย แค่เซ็นเอกสารสัญญาซื้อขายกันต่อหน้าแล้วผู้ขายก็รับเงินได้ทันที แต่อย่าลืมว่าการโอนลอยมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ เพราะกรรมสิทธิ์ในรถยนต์จะไม่ถูกเปลี่ยนมือจนกว่าผู้ซื้อไปดำเนินการทางทะเบียนที่กรมขนส่งทางบก ดังนั้นผู้ขายควรสัญญาฉบับนั้นเอาไว้ดี ๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในภายหลัง
ส่วนใครที่ยังไม่แพลนขายรถยนต์หรือเพิ่งซื้อรถยนต์มือสองมา อย่าลืมนำรถยนต์ไปรับการตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้ว่ารถของคุณยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ มีอะไหล่ชิ้นไหนจำต้องรับการเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ถึงการเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ แต่ก็แลกมาด้วยราคาอะไหล่ที่ค่อนข้างสูง ฉะนั้นการทำประกันภัยอะไหล่รถยนต์ติดไว้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่รถ สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ประกันภัยเกี่ยวกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+ หรือประกันภัยอะไหล่รถยนต์ ฮักส์ยินดีให้คำปรึกษาตามช่องทางที่คุณสะดวก ทั้ง Facebook หรือไลน์ @hugsinsurance หรือโทร 0 2975 5855