รวมข้อดีของวัคซีน Moderna ป้องกันโควิด-19
เขียนเมื่อวันที่ 09/07/2021
วัคซีน Moderna ดีไหม มีประสิทธิภาพระดับไหน
เชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ที่เกิดการระบาดขึ้นในช่วงปลายปี 2019 ที่เมืองอู่ฮั่น ในประเทศจีน ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยเป็นที่รู้จักมาก่อน สามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนจนมีผู้ติดเชื้อหลากหลายประเทศทั่วโลก เป็นเชื้อไวรัสที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ โดยอาการเบื้องต้น คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่รับกลิ่น ลิ้นไม่รับรส มีผื่นแดง ลมพิษตามตัว บางรายมีอาการท้องเสียร่วมด้วย และในปัจจุบันเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้มีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือ “วัคซีนต้านโควิด” ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันโดยข้อมูลปัจจุบันมีวัคซีนโควิด-19 อยู่ทั้งหมด 13 ชนิด และมีวัคซีนหลายตัวที่ได้รับการอนุญาติให้ฉีดหรือผลิตแจกจ่ายแก่ประชาชนทั่วโลก รวมถึงมีการอนุญาติให้ใช้และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
วัคซีน Moderna (โมเดอร์นา) อีกหนึ่งวัคซีนที่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้อนุญาตให้ใช้ ในกรณีฉุกเฉินกับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ ยังได้รับอนุญาตสำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากหน่วยงานด้านสุขภาพในประเทศแคนาดา อิสราเอล สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ กาตาร์ ไต้หวัน และองค์การอนามัยโลก ถือเป็นวัคซีนประสิทธิภาพสูงที่หลายคนกำลังจับตามอง
วัคซีน Moderna คืออะไร?
วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna COVID-19 Vaccine) ชื่อที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา ระบุไว้คือ mRNA-1273 ถูกคิดค้นและผลิตโดยบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) สัญชาติอเมริกัน เป็นวัคซีนชนิด mRNA vaccine ผลิตจากสารพันธุกรรมของไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด และใช้เทคโนโลยีใหม่ในการสังเคราะห์สารพันธุกรรมเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ที่เฉพาะเจาะจงเชื้อไวรัส หลังจากฉีดวัคซีนเข้าร่างกายจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมาในการป้องกันหรือต่อต้านเชื้อ เป็นวัคซีนที่ใช้การผลิต mRNA ที่ใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ Pfizer และ Moderna สำหรับการฉีดวัคซีน Moderna COVID-19 ใช้วิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อจำนวน 2 โดส (ปริมาณ 0.5 มล.) โดยเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 เว้นระยะห่างกัน 1 เดือน เมื่อฉีดครบ 2 โดสแล้วจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดได้สูงถึง 92.1%
- หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 2 สัปดาห์ วัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิดอยู่ที่ 50.8%
- หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ประมาณ 2 สัปดาห์ วัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิดอยู่ที่ 92.1%
มีประสิทธิภาพรวมคือป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการ 94.1% แบ่งเป็นกลุ่มผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-65 ปี วัคซีนมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 95.6% และในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป วัคซีนจะมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 86.4%
วัคซีน Moderna ป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ไหนได้บ้าง
ประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นาสามารถป้องกันสายพันธุ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์ในปัจจุบัน ดังนี้
- โควิดสายพันธุ์อัลฟ่า สายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7)
- โควิดสายพันธุ์เบต้า สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B.1.351)
- สายพันธุ์ที่ค้นพบครั้งแรกในบราซิล (P.1)
- โควิดสายพันธุ์เดลต้า สายพันธุ์อินเดีย (B.1.618 และ B.1.617)
Moderna Covid-19 Vaccine
ข้อดีของวัคซีน Moderna ที่ควรรู้
- วัคซีนที่มีผลการทดลองจากการใช้จริงในประเทศสหรัฐอเมริการและประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงและสามารถป้องกันการติดเชื้อได้
- มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 92.1%
- เป็นวัคซีนผลิตง่าย รวดเร็ว มีขั้นตอนการผลิตที่ไม่ยุ่งยาก และราคาไม่สูง
- มีการรับรองและสามารถใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีประสิทธิภาพดีและปลอดภัย
- ป้องกันการป่วยหนักจากการติดเชื้อและเสียชีวิตได้
ข้อควรรู้ก่อนฉีดวัคซีน Moderna ป้องกันCOVID-19
โมเดอร์นาถึงแม้จะเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีในส่วนของข้อควรรู้ที่ต้องทำการศึกษารายละเอียด เพื่อป้องกันผลที่ตามมาหลังได้รับการฉีดวัคซีน และความเหมาะสมของวัคซีนสำหรับแต่ละบุคคลก่อนทำการฉีด โดยมีข้อควรรู้ดังนี้
- ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ไม่ควรฉีดวัคซีนชนิดนี้
- ห้ามฉีดวัคซีน Moderna COVID-19 ให้กับบุคคลที่มีประวัติการแพ้อย่างรุนแรง (เช่น โรคภูมิแพ้แบบรุนแรง) หรือผู้ที่แพ้ส่วนประกอบใด ๆ ของวัคซีน
- ผู้ที่มีอาการแพ้หลังจากฉีดวัคซีนเข็มแรก ไม่ควรฉีดวัคซีนชนิดนี้เพิ่มเติม
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สารโพลีเอธิลีน ไกลคอล (Polyethylene glycol: PEG) ไม่ควรฉีด เพราะสารชนิดนี้เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของวัคซีน
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สารพอลิซอร์เบต (Polysorbate) เป็นสารที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ PEG จึงอาจเป็นอันตรายต่อผู้ได้รับวัคซีน
- สตรีที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์เป็นรายบุคคลก่อนทำการฉีด แต่สตรีที่อยู่ระหว่างให้นมบุตรสามารถฉีดวัคซีนโมเดอร์นาได้
- เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด โรคปอด ที่อาจมีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อติดโควิด-19
- เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV เพราะเมื่อได้รับเชื้อโควิด-19 อาจมีความรุนแรงมากขึ้น
ผลข้างเคียงหลังได้รับวัคซีน Moderna
วัคซีน Moderna มีผลข้างเคียงเช่นเดียวกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ โดยจะมีอาการหลังจากได้รับวัคซีน 1-2 วัน หลังจากนั้นอาการเหล่านี้จะหายไปเอง แต่หากมีอาการที่รุนแรง ดังต่อไปนีควรรีบพบแพทย์ทันที
- มีไข้
- มีอาการปวด บวม หรือรอยแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน
- รู้สึกอ่อนเพลีย
- มีอาการปวดหัว
- รู้สึกปวดกล้ามเนื้อหรือปวดตามข้อ
- มีอาการหนาวสั่น
- อาจมีการคลื่นไส้อาเจียน
- มีอาการบวมใต้วงแขน
สำหรับวัคซีน Moderna ในไทย ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ในไทยแล้ว นำเข้าโดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งเป็นการนำเข้าของบริษัทเอกชน เป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับคนไทย คาดการณ์ว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน Moderna ผ่านโรงพยาบาลเอกชนและจะได้รับวัคซีนในช่วงเดือนตุลาคม วัคซีน moderna ราคาในไทยทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชนได้กำหนดราคากลางค่าบริการที่เข็มละ 1,900 บาท หรือแบบครบ 2 เข็ม ราคา 3,800 บาท ราคานี้รวมค่าบริการ (ไม่รวมค่าแพทย์) ค่าประกัน และค่าสังเกตอาการที่ต้องใช้เวลา 40 นาที โดยที่จะมีแพทย์ติดตามรอสังเกตอาการ แต่ในส่วนของค่าแพทย์สำหรับแต่ละโรงพยาบาลจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับอัตราค่าบริการของโรงพยาบาลนั้น ๆ
นอกจากความสำคัญของการได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 อีกสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกันคือ ประกันภัยวัคซีนโควิด และ ประกันภัยโควิด ให้สามารถเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทั้งจากการติดเชื้อ หรือ การแพ้วัคซีนโควิดกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลายจากฮักส์ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในความคุ้มครอง สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : modernatx, WHO-Moderna, modernatx covid19vaccine-eua, Moderna, bangkokbiznews