รถกี่ปีต้องตรวจสภาพ ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่
เขียนเมื่อวันที่ 20/07/2021
ทำไมต้องตรวจสภาพรถ ที่นี่มีคำตอบ
เมื่อเอ่ยถึงการตรวจสภาพรถ คาดว่าผู้ใช้รถหลายคนคุ้นเคยกันคำนี้ดี ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดงที่ต้องนำรถเข้าศูนย์เพื่อเช็กระยะทุก ๆ 6 เดือนหรือตามระยะทางที่กำหนด เมื่อตรวจพบปัญหาอะไรก็สามารถแก้ไขได้ทันที ขณะที่เจ้าของรถที่มีอายุการใช้งาน 7 ปี ก็ต้องนำรถเข้ารับเช็กสภาพรถยนต์ไม่ต่างกัน เพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ทั้งยังถือเป็นการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนต่อภาษีประจำปีอีกด้วย และหนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยรถกี่ปีต้องตรวจสภาพ ค่าตรวจสภาพรถเท่าไหร่ สามารถนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถที่ไหนได้บ้าง วันนี้เราจะพาไปไขข้อข้องใจเหล่านี้กัน
ตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี คืออะไร ทำไมต้องตรวจ ?
เป็นการนำรถยนต์ของเราไปตรวจสภาพว่า รถอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ รวมถึงอุปกรณ์หรือเครื่องยนต์ก็ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับรถ ตัวผู้โดยสาร รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ นอกจากนี้การตรวจสภาพรถยนต์ประจำปียังมีความสำคัญอีกอย่างนั่นคือ การนำใบตรวจสภาพรถยนต์ไปยื่นสำนักงานขนส่งใกล้บ้านเพื่อต่อภาษีรถยนต์
รถกี่ปีต้องตรวจสภาพก่อนต่อภาษีรถยนต์
กรมการขนส่งทางบก ได้กำหนดประเภทของรถที่ต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีประจำปี ไว้ดังนี้
- รถยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถยนต์บรรทุก ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป
- รถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซ NGV และแก๊ส LPG ต้องนำรถเข้ามาตรวจสภาพถังก๊าซและอุปกรณ์ ก่อนต่อภาษีรถทุกปี
การนับอายุรถตรวจสภาพ
สำหรับวิธีนับอายุการใช้งานรถว่า ถึงเวลาต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถยนต์ประจำปีหรือยัง ให้นับอายุทางทะเบียนโดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่มีการจดทะเบียนครั้งแรกไปจนถึงวันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี อาทิ
- รถจดทะเบียน ปี 2554 ต้องนำรถตรวจสภาพครั้งแรก ปี 2561 (รถยนต์ ที่มีอายุครบ 7 ปี)
- รถจักรยานยนต์จดทะเบียน ปี 2557 ต้องนำรถตรวจสภาพครั้งแรก ปี 2562 (รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุครบ 5 ปี)
นำรถเข้ารับการตรวจสภาพได้ที่ไหนบ้าง
เจ้าของรถสามารถนำรถเข้าตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถยนต์ภาคเอกชน (ตรอ.) ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือใช้บริการที่กรมการขนส่งทางบกโดยตรง ยกเว้น รถที่มีการดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้, ขาดต่ออายุทะเบียนเกิน 1 ปีขึ้นไป, ตัวเลขรถชำรุด หรือมีร่องรอยการแก้ไขให้นำรถไปตรวจสภาพ ณ หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
ตรวจสภาพรถล่วงหน้าได้กี่เดือน
เจ้าของสามารถนำรถไปเข้ารับการตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถยนต์ภาคเอกชน (ตรอ.) หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนวันสิ้นอายุภาษีประจำปี
ตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีรถยนต์
ตรวจสภาพรถ ตรวจอะไรบ้าง
- การตรวจวัดเสียง ต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล
- รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ต้องตรวจควันดำ โดยระบบกระดาษกรองต้องไม่เกิน 50% และระบบวัดความทึบแสงต้องไม่เกิน 45%
- ตรวจสอบวัดโคมไฟหน้า ทิศทางเบี่ยงเบนของลำแสง และตรวจวัดค่าความเข้มของแสง
- ตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลของรถ อาทิ แผ่นป้ายทะเบียนรถ ลักษณะรถ หมายเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ เป็นต้น
- ตรวจอุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝน ระบบรองรับน้ำหนัก ระบบเบรก ว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่
- ทดสอบประสิทธิภาพการเบรก ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ฯลฯ
ตรวจสภาพรถ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถต้องจ่ายในการตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี ตามกรมขนส่งทางบกระบุไว้ มีดังนี้
- รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท
- รถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซ NGV หรือแก๊ส LPG ต้องจ่ายค่าตรวจเพิ่มเติม 535 บาท
เชื่อว่าตอนนี้เจ้าของรถคงพอเห็นความสำคัญของการนำรถเข้ารับการตรวจสภาพว่ามีความสำคัญอย่างไร ใช้กี่ปีถึงต้องเข้าตรวจสภาพประจำปีก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไว้ และอีกสิ่งที่ผู้ขับรถห้ามละเลย นั่นคือ การทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อเสริมความอุ่นใจแก่ผู้ขับรถ ตัวผู้โดยสาร รวมถึงเพื่อนร่วมทางเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด หากได้รับบาดเจ็บหรือรถพังเสียหายมีบริษัทประกันภัยเข้ามาช่วยคุ้มครอง และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ส่วนใครที่สนใจประกันภัยรถยนต์ สามารถเปรียบเทียบและเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับตัวคุณได้แล้วผ่าน Hugs Insurance หรือโทรปรึกษาได้ที่ 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : กรมการขนส่งทางบก