ระวัง ถ่ายเป็นเลือดเสี่ยงเป็นมะเร็ง รีบรักษาก่อนสาย
เขียนเมื่อวันที่ 19/07/2021
ขับถ่ายเป็นเลือด สัญญาณเตือนโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
หากพบว่ามีเลือดปนออกมากับอุจจาระบ่อยครั้ง หรือร้ายถึงขั้นขับถ่ายเป็นเลือด นี่อาจเป็นสัญญาณให้รู้ว่าโรคร้ายอย่างมะเร็งลำไส้ใหญ่กำลังมาเยือน ต้องรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคและทำการรักษาให้ทันท่วงที ก่อนลุกลามจนอยากที่จะรับมือไหว สำหรับอาการที่บ่งชี้ถึงความผิดปกของการอุจจาระเป็นเลือด คือมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากทางทวารหนัก รวมถึงอุจจาระแล้วมีลิ่มเลือดปนอยู่ และอุจจาระมีสีแดงเข้าม อีกทั้งยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้
- มีอาการท้องผูกหรือท้องร่วง
- รู้สึกเจ็บขณะกำลังถ่ายอุจจาระ
- รู้สึกปวดเกร็งที่บริเวณท้อง
- อ่อนเพลียและน้ำหนักลดลง
- มีอาการคลื่นไส้อาเจียนและเวียนหัว
- รู้สึกหายใจลำบากหรือใจสั่น
- มีอาการหน้ามือคล้ายจะเป็นลม หรือเป็นลมหมดสติได้
- มีภาวะหน้าซีด ตัวซีด หรือเกิดอาการโลหิตจางเนื่องจากเสียเลือดเรื้อรัง
- ความโลหิตต่ำ หรือเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำในจขณะที่ลุกขึ้นยืน
- เสี่ยงเกิดภาวะช็อคจากการเสียเลือดในปริมาณมาก
สาเหตุของการขับถ่ายเป็นเลือด
การขับถ่ายเป็นเลือดสาเหตุมาจากอวัยวะระบบขับถ่ายเสียหาย ส่งผลให้มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ และมีสาเหตุโดยรวม ดังนี้
- เป็นโรคริดสีดวงทวาร
- มีแผลฉีดขาดที่บริเวณรูทวารหนักจากการที่ขับอุจจาระที่แข็งตัว
- ทวารหนัก ลำไส้ตรง และถุงผนังลำไส้ใหญ่เกิดการอักเสบ
- มีติ่งเนื้ออยู่ในลำไส้ใหญ่ หรือก่อนหน้านี้ได้กำจัดติ่งเนื้อออกไปแล้ว
- เกิดภาวะลำไส่ใหญ่ขาดเลือด
- เป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
อาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ อีกหนึ่งโรคร้ายและพบบ่อยเป็นอันดับ 3 ในประเทศไทย อาการที่บ่งชี้ของโรคคือ ขับถ่ายเป็นเลือด อุจจาระมีมูกเลือกปนออกมา ท้องผูก รู้สึกปวดเบ่งทุกครั้งเวลาถ่าย และอุจจาระมีลำที่เล็งลง มักพบในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้มีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีกากในน้อย หรืออาหารที่มีไขมันมากก็เป็นตัวกระตุ้นที่ก่อให้เกิดโรคได้เช่นกัน และหากพบในระยะที่ลุกลามทำให้มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง สำหรับอาการที่เป็นสัญญาณเตือนว่ามีความเสี่ยงก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ คือ
-
มีอาการท้องผูกเรื้อรัง
สาเหตุมาจากการไม่รับประทานผักผลไม้ ทำให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์ที่เพียงพอ รวมถึงการดื่มน้ำน้อยก็เช่นกัน มีส่วนทำให้เกิดอาการท้องผูกเรื้อรัง และบานปลายจนมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
-
อุจจาระมีลักษณะลีบเป็นลำเล็ก
สาเหตุเกิดจากมีติ่งเนื้อขึ้นมาในลำไส้ทำให้อุจจาระเคลื่อนผ่านถูกบีบให้ลำเล็กลีบ ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือติ่งเนื้อดังกล่าว มีความเสี่ยงกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ในอนาคต
-
มีเลือดสดปนมากับอุจจาระ
เกิดจากอุจจาระแข็งตัวเมื่อเบียดกับติ่งเนื้อที่ขึ้นผิดปกติในลำไส้ทำให้เกิดแผลและมีเลือดปนออกมา ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ
-
ท้องเสียสลับกับท้องผูก
เป็นภาวะที่อุจจาระแข็งตัวและเหลวสลับกัน สาเหตุมาจากลำไส้มีความผิดปกติและเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้
-
น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
หากรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิมแต่น้ำหนัลดลงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญารอันตรายของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
-
รู้อ่อนเพลียไม่มีแรง
สาเหตุเกิดจากการเสียเลือดมากที่ปนออกมากับอุจจาระ ส่งผลให้เกิดภาวะซีดและโลหิตจาง
ขับถ่ายเป็นเลือดและมะเร็งลำไส่ใหญ่สามารถป้องกันได้ เพียงเลือกรับประทานอาหารมีที่ประโยชน์ต่อร่างกาย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หมั่นออกกำลังกายและตรวจคัดกรองมะเร็ง เพื่อยับยั้งการเกิดโรคร้ายได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หากพบเร็วมีโอกาสรักษาหาย แต่ถ้าตรวจเจอในระยะลุกลามถือเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง และอย่างที่ทราบกันดีว่ามะเร็งถือเป็นโรคร้ายในลำดับต้น ๆ ที่มักพบในคนไทยทุกเพศทุกวัย อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นการทำประกันภัยมะเร็ง จึงเป็นหลักประกันชั้นดีที่ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วยในอนาคต ฮักส์มีประกันภัยมะเร็งที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เบี้ยเริ่มต้นเพียง 625 บาท/ปี รวมถึงประกันภัยมะเร็ง Cancer Pro จากวิริยะประกันภัย เบี้ยประกันภัย 6,240 บาท/ปี คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล3,000,000 บาท/ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855 พร้อมให้คำนะแนะเกี่ยวกับประกันภัยมะเร็ง และประกันภัยสุขภาพที่เหมาะสมสำหรับคุณ
อ้างอิงข้อมูล : siphhospital, paolohospital