รวมปัญหาที่เกิดจากยางรถยนต์ คนขับต้องหมั่นเช็ค
เขียนเมื่อวันที่ 25/06/2021
อย่าชะล่าใจ สัญญาณเตือนยางรถยนต์มีปัญหา
ยางรถยนต์ เป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะยางทำหน้าที่สร้างแรงเสียดทานในการยึดเกาะถนนไปจนถึงตอนเบรกลดความเร็ว ยิ่งยางมีประสิทธิภาพดีผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดีตามไปด้วย แต่พอใช้งานมาระยะหนึ่งยางรถยนต์ก็เริ่มเสื่อมสภาพ แล้วจะรู้เมื่อไหร่ว่าควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ตอนไหน รวมถึงสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า ยางรถยนต์ของคุณกำลังมีปัญหา ตามไปหาคำตอบกัน
แต่เชื่อว่าหลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ยางรถยนต์ที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบันเป็นยางประเภทนุ่มเงียบ เป็นยางโรงงานที่ติดมากับรถยนต์ป้ายแดง แม้หลังถึงรอบที่ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ยังเลือกใช้ยางนุ่มเงียบ ที่มีมาตรฐานอยู่ในระดับกลาง ๆ ไปจนถึงดีตามยี่ห้อที่เลือกซื้อ โดยยางประเภทนี้มีข้อดี คือ ผิวสัมผัสหน้ายางมีการกระจายแรงกดแบบสม่ำเสมอ ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี มีการเสริมเนื้อยางพิเศษบริเวณแก้มยางช่วยในการลดแรงสั่นสะเทือน มีความเกาะถนนให้ความนุ่มนวลในการขับขี่
ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี ควรเปลี่ยนเมื่อไร
เป็นอีกในคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ยางรถยนต์สามารถใช้งานได้กี่ปี คำตอบ ยางรถยนต์ควรเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ 4-5 ปี (นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน) หรือเมื่อใช้งานระยะทาง 50,000 กิโลเมตร แต่ควรพิจารณาเรื่องเหล่านี้ประกอบด้วยว่า ยางพร้อมใช้งานจริงหรือไม่
ความลึกของดอกยาง
ความลึกของดอกยางใหม่อยู่ที่ประมาณ 8-9 มิลลิเมตร ถ้าลองวัดความลึกของดอกยางแล้วพบว่า ต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่า ดอกยางรถยนต์เหลือน้อยเกินไปถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว
โครงสร้างของยางชำรุด
ถ้าพบร่องรอยถูกของมีคมบาดเป็นรอยบาดแผลใหญ่ หรือแก้มยางรถยนต์มีรอยแตก แนะนำให้รีบเปลี่ยนหากฝืนใช้งานต่ออาจทำให้ยางระเบิดขณะขับขี่ได้
6 สัญญาณเตือนยางรถมีปัญหา รีบเปลี่ยนด่วน
1. ขับรถลุยน้ำแล้วรถแฉลบ
ถ้าขับรถลุยแอ่งน้ำตื้น ๆ แล้วรถเกิดแฉลบ นั่นแปลว่าความลึกของดอกยางรถยนต์ตื้นเกินกว่ามาตรฐานกำหนดไว้ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการรีดน้ำของยางรถยนต์น้อยลงไปด้วย
2. พวงมาลัยสั่นเวลารถเคลื่อนที่ช้า
หากขับบนถนนเรียบไม่มีหลุม ไม่มีบ่อ แต่รู้สึกเหมือนขับรถตกหลุมตลอดเวลาพร้อมกับพวงมาลัยสั่น เป็นสัญญาณว่ายางรถยนต์อาจบวมไม่ว่าจะบวมมากหรือน้อยก็ตาม ถ้าฝืนใช้งานต่อเสี่ยงเกิดยางระเบิด
3. ลมยางที่อ่อนเร็วผิดปกติ
ตามปกติเวลาเติมลมยางเรามักเติมพร้อมกันทั้ง 4 เส้น แต่ถ้ามียางรถข้างใดข้างหนึ่งต้องเติมลมยางบ่อยกว่ายางเส้นอื่น ใหเ้สันนิษฐานว่ากำลังเผชิญปัญหายางรถยนต์รั่วซึมอยู่ ต้องรีบตรวจเช็คจุดรั่วซึมหรือเปลี่ยนยางทันที ไม่ควรปล่อยไว้แล้วคิดว่าแค่เติมลมยางบ่อย ๆ ก็พอ เพราะอาจนำไปสู่ความเสียหายที่มากขึ้นและอันตรายได้
4. ปล่อยพวงมาลัยแล้วรถไถลไปข้างไปใดข้างหนึ่ง
อาการรถไถลไปข้างไปใดข้างหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นหลังผู้ขับขี่ปล่อยพวงมาลัยรถยนต์ไม่กี่วินาที เกิดจากหลายสาเหตุโดยหนึ่งในนั้น คือ ยางรถยนต์อาจเสื่อมสภาพ
5. เลี้ยวรถแล้วรู้สึกหนืด ๆ
ถ้าตอนเลี้ยวรถรู้สึกว่าขับแล้วรถมีอาการหน่วง ๆ หนืด ๆ ไปข้างใดข้างหนึ่ง เป็นสัญญาณว่ายางเริ่มอ่อนตัวหรือลมยางไม่เท่ากัน
6. ล้อรถมีเสียงเอี๊ยด ๆ ผิดปกติขณะขับ
หากยางรถยนต์ส่งเสียงดังเอี๊ยดผิดปกติเวลาขับขี่เข้าไปในพื้นมีความมัน อาจเกิดจากยางรถเก่าเกิน ทำให้เนื้อยางแข็งกระด้างและหน้าสัมผัสยางสึก
หมั่นเติมลมยางรถยนต์เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
วิธีดูแลยางรถยนต์ให้ใช้งานได้คุ้มค่า
(1) เติมลมยางให้พอดี
ในหนังสือคู่มือของรถยนต์แต่ละรุ่น มีระบุไว้ชัดเจนว่าควรเติมลมยางยางหน้าเท่าไหร่และยางหลังเท่าไหร่ ถึงช่วยรับน้ำหนัก ช่วยการทรงตัว และคงรูปร่างของยางให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อการขับขี่ปลอดภัยรวมถึงยืดอายุการใช้งานของยาง
(2) หลีกเลี่ยงสภาพพื้นผิวถนนขรุขระ
เพื่อถนอมตัวยางให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ ควรหลีกเลี่ยงขับผ่านจุดที่ถนนขรุขระโดยไม่ลดความเร็ว เพราะบริเวณหน้ายางเกิดการเสียดสีกับผิวถนน ทำให้ยางรถสึกหรอมากกว่าเมื่อเทียบกับพื้นผิวถนนเรียบ
(3) ตรวจสภาพยางด้วยตา
ถ้าตรวจดูแล้วพบว่ายางรถว่ามีรอยฉีกขาด แตก มีรอยถูกตำด้วยมีของมีคม อาทิ ตะปู หินคม หรือเศษเหล็ก ให้ทำการเปลี่ยนอะไหล่ (กรณีที่มียางอะไหล่สำรอง) แล้วค่อยนำยางรถข้างที่เปลี่ยนไปปะรอยรั่วที่ร้าน
(4) ไม่บรรทุกของหนักเกินไป
การบรรทุกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป ทำให้หน้ายางสัมผัสกับผิวถนนมากส่งให้เกิดความร้อน จนเป็นเหตุดอกยางบริเวณหน้ายางเกิดการสึกหรอได้ง่าย เพียงเท่านี้ก็พอรู้วิธีสังเกตยางรถยนต์ด้วยตัวเองและทริคยืดอายุยางรถยนต์กันแล้ว ใครที่ไม่แน่ใจอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ แนะนำให้เอารถยนต์ไปเข้าศูนย์บริการที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อตรวจความเรียบร้อยของรถอย่างละเอียด หากตรวจพบความผิดปกติจะได้รีบแก้ไขได้ทันที เพื่อให้รถยนต์อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและปลอดภัยมากที่สุด ส่วนอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ พ.ร.บ. รถยนต์ และประกันภัยรถยนต์ที่ช่วยให้คุณเบาใจและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ยามเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากทำประกันภัยรถยนต์ ฮักส์มีแผนประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 3+ เบี้ยเริ่มต้น 4,900 บาท/ปี* สามารถสอบถามฮักส์ได้โดยตรงที่ 0 2975 5855 เพื่อสอบข้อมูลเกี่ยวกับแผนประกันภัย
ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับประกันภัยรถยนต์ที่ฮักส์...ที่นี่