loading
ไขข้อสงสัย! มีประกันสังคมแล้ว ต้องทำประกันสุขภาพเพิ่มไหม

ไขข้อสงสัย! มีประกันสังคมแล้ว ต้องทำประกันสุขภาพเพิ่มไหม

เขียนเมื่อวันที่ 16/07/2021

ประกันภัยสุขภาพ จำเป็นแค่ไหน ถ้ามีประกันสังคมอยู่แล้ว

เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่วัยทำงาน มนุษย์เงินเดือนล้วนมีสิทธิประกันสังคม ซึ่งเป็นสวัสดิการที่รัฐมอบให้ผู้ประกันตนเพื่อคอยดูแลยามเกิดเหตุไม่คาดคิด อย่างกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต เป็นต้น และด้วยสถานการณ์ปัจจุบันรอบ ๆ ตัวเราเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงที่มีผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19, ฝุ่น PM 2.5 และโรคภัยไข้เจ็บอีกมากมายที่พร้อมรุมเร้าร่างกายของเราได้ตลอดเวลา 

มนุษย์เงินเดือนหลายคนเริ่มให้ความสนใจประกันภัยสุขภาพมากขึ้น แต่มีบางคนที่มีคำถามคาใจว่า มีประกันสังคมแล้ว ต้องทำประกันสุขภาพให้เปลืองเงินทำไม เพราะประกันสังคมและประกันภัยสุขภาพต่างมีสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลไม่ต่างกัน และวันนี้เราพาไปหาคำตอบกันว่า สิทธิประโยชน์ตามสิทธิประกันสังคมนั้นเพียงพอรับมือความเสี่ยงด้านสุขภาพในอนาคตหรือไม่

ประกันสุขภาพและประกันสังคม เหมือนกันไหม

สำหรับใครที่เชื่อว่ามีสิทธิประกันสังคมอยู่แล้ว ไม่ต้องทำประกันภัยสุขภาพก็ได้ อันที่จริงประกันสังคมกับประกันภัยสุขภาพนั้นไม่เหมือนกันซะทีเดียว ส่วนความแตกต่างของประกันทั้ง 2 แบบนี้ มีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกัน

ประกันสังคม คืออะไร

เป็นสวัสดิการที่รัฐมอบให้แก่ผู้ประกันตนหรือลูกจ้าง โดยลูกจ้างและนายจ้างมีหน้าที่ต้องทำการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมาย จำนวนเงินที่นำส่งนั้นหักจากฐานเงินเดือนของแต่ละคน อัตราการหักเงินสมทบอยู่ที่ 5% แต่สูงสุดต้องไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน ซึ่งเงินส่วนนี้ถูกนำไปใช้ดูแลค่าใช้จ่ายจำเป็นกรณีผู้ประกันตนเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร สงเคราะห์ชราภาพ และว่างงาน เป็นต้น ทำให้ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิประกันสังคมยามเจ็บป่วยได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา

ประกันสุขภาพ คืออะไร

เป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทประกันที่เข้ามารองรับความเสี่ยงค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้เอาประกันกรณีเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บ รวมถึงโรคร้ายแรง เพราะค่าใช้จ่ายในการเข้าโรงพยาบาลแต่ละครั้งนั้น นับวันราคายิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังคาดเดาตัวเลขไม่ได้ แต่ทั้งนี้คุณจะทำประกันภัยสุขภาพหรือไม่ทำก็ได้

ประกันสังคมและประกันภัยสุขภาพ ต่างกันอย่างไร

จุดประสงค์หลักของประกันสังคมและประกันภัยสุขภาพมีความคล้ายคลึงกัน นั่นคือเป็นหลักประกันที่ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อคุณเข้ารักษาที่โรงพยาบาล แต่ประกันสังคมและประกันภัยสุขภาพยังมีข้อแตกต่างบางส่วน ตามไปดูกันเลย

โรงพยาบาล

ประกันสังคม : เข้ารับการรักษาได้เฉพาะโรงพยาบาลที่ระบุไว้ในสิทธิเท่านั้น ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน

ประกันภัยสุขภาพ : มีโรงพยาบาลให้เลือกเข้ารับการรักษามากกว่าประกันสังคม เนื่องจากบริษัทประกันส่วนใหญ่มีโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือครอบคลุมทั่วประเทศอยู่แล้ว

แพทย์

ประกันสังคม : ผู้ใช้สิทธิประกันสังคมไม่สามารถเลือกเเพทย์เพื่อทำการรักษาได้ ต้องรักษาตามแพทย์ที่ทางโรงพยาบาลจัดให้เท่านั้น

ประกันภัยสุขภาพ : เนื่องจากประกันภัยสุขภาพมีความยืดหยุ่นกว่า ทำให้สามารถเลือกแพทย์เฉพาะทางได้

ยารักษาโรค

ประกันสังคม : รับผิดชอบค่ายาในบัญชีเท่านั้น หากใช้ยานอกบัญชีต้องจ่ายเงินเอง

ประกันภัยสุขภาพ : เข้ามาดูแลค่ายาทั้งหมด ทำให้สามารถเลือกใช้ยาที่มีคุณภาพได้โดยไม่กระทบเงินในบัญชี 

ห้องพักผู้ป่วย

ประกันสังคม : โรงพยาบาลจะกำหนดห้องพักสำหรับผู้ใช้สิทธิประกันสังคมเอาไว้แล้ว อาทิ เป็นห้องพักรวม 2 คน หรือ 4 คน ตามสิทธิประกันสังคม แต่ถ้าต้องการพักห้องพิเศษต้องจ่ายเงินค่าส่วนต่างเอง

ประกันภัยสุขภาพ : สามารถเลือกห้องพัก และอาหารได้ตามที่คุณต้องการ ตามวงเงินที่ระบุในกรมธรรม์ 

ค่ารักษาพยาบาล

ประกันสังคม : ดูแลค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยขั้นพื้นฐาน หรือเท่าที่ระบุไว้ตามสิทธิประกันสังคมเท่านั้น ถ้าเจ็บป่วยด้วยโรคภัยนอกเหนือจากที่ประกันสังคมกำหนด ต้องจ่ายค่าส่วนต่างเอง

ประกันภัยสุขภาพ : ดูแลค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมกว่า ทั้งค่าห้อง ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าบริการรถพยาบาล ค่าปรึกษาแพทย์พิเศษ รวมถึงค่าใช้จ่ายกรณีที่รักษาพยาบาลฉุกเฉินหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาล

ความคุ้มครอง

ประกันสังคม : ไม่สามารถเลือกความคุ้มครองเองได้ เพราะประกันสังคมเลือกความคุ้มครองให้ผู้ประกันตนไว้แล้ว

ประกันภัยสุขภาพ : สามารถปรับแต่งความคุ้มครองได้เอง อาทิ เลือกทำประกันโรคร้ายแรงเพิ่มเติม หรือทำประกันชดเชยรายได้ เพื่อรับเงินชดเชยรายได้กรณีไม่สามารถทำงานได้จากการพักรักษาตัว

กรณีเสียชีวิต

ประกันสังคม : ได้รับเงินช่วยเหลือค่าทำศพ จำนวน 40,000 บาท

ประกันภัยสุขภาพ : ได้รับเงินช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตตามทุนประกันสุขภาพที่ระบุในกรมธรรม์

 

ประกันสุขภาพ เหมาะกับใคร

แบบฟอร์มประกันสุขภาพ

คำบรรยายใต้ภาพ:  ประกันภัยสุขภาพสำคัญแค่ไหน เหมาะกับใครบ้าง

(1) ผู้ที่ต้องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้

ขึ้นชื่อว่าอาการเจ็บป่วยต่อให้มีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ค่าใช้จ่ายที่ตามมาไม่ได้น้อยตามด้วยเลย และถ้าเกิดอาการป่วยที่ว่านั้นจำต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง หรือกลายเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมา ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นอาจทำให้เงินเก็บทั้งชีวิตหายวับไปในพริบตาได้ ฉะนั้นการทำประกันภัยสุขภาพจึงกลายเป็นตัวเลือกที่หลายคนนึกถึง เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลค่าใช้จ่ายพยาบาลแพง ๆ ช่วยให้ผู้ทำประกันสามารถเก็บเงินที่มีอยู่ไว้ใช้จ่ายยามเกิดเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ ได้

(2) ผู้ที่มีโอกาสเข้าโรงพยาบาลเป็นประจำ

ไม่ว่าจะอยู่ในวัยเรียน วัยทำงาน หรือวัยเกษียณก็มีโอกาสเข้าใช้บริการทางการแพทย์ไม่ต่างกัน ประกอบกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหาร ความเครียด หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้มีความเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วย ฉะนั้นผู้ที่รู้ตัวว่ามีโอกาสเข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆ จึงเป็นบุคคลอีกกลุ่มที่ควรทำประกันภัยสุขภาพติดไว้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

(3) ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี

ประกันภัยสุขภาพไม่ได้มีข้อดีแค่คุ้มครองสุขภาพของเราเท่านั้น ยังมีสิทธิประโยชน์เรื่องลดหย่อนภาษีที่ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันภัยสุขภาพไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท

มีประกันสังคมแล้ว ต้องทำประกันสุขภาพเพิ่มไหม

นี่เป็นอีกหนึ่งคำถามข้องใจของใครหลาย ๆ คน แต่เมื่อพิจารณาประโยชน์ของการทำประกันภัยสุขภาพ พบว่าสิทธิที่ได้รับจากประกันสังคมนั้นอาจยังไม่เพียงพอ เนื่องจากประกันสังคมกำหนดให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิได้เฉพาะโรงพยาบาลที่ได้เลือกไว้เท่านั้น เว้นแต่เป็นการเจ็บป่วยขั้นฉุกเฉินจริง ๆ ถึงสามารถใช้สิทธิในโรงพยาบาลอื่นได้ ต่างจากประกันภัยสุขภาพที่ผู้ทำประกันสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือบริษัทประกันได้ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ประกันสังคมกำหนดค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ไว้ดังนี้

โรงพยาบาลของรัฐ

  • สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง ตามความจำเป็น เบิกค่าอาหารและค่าห้องได้ไม่เกิน 700 บาทต่อวัน

โรงพยาบาลเอกชน

  • สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้รักษาในห้อง ICU ไม่เกินวันละ 2,000 บาท เบิกค่าห้องค่าอาหารไม่เกินวันละ 700 บาทต่อวัน

ต่างจากประกันภัยสุขภาพที่ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลครบทุกความต้องการตามแผนกรมธรรม์ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงจากภาระค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วยในอนาคตอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าประกันสังคมและประกันภัยสุขภาพมีความคุ้มครองเรื่องอาการเจ็บป่วยเหมือนกัน เพียงแต่ประกันภัยสุขภาพให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า เพราะไม่ว่าคุณจะเจ็บป่วยหรือมีเหตุให้ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล คุณจะได้รับการดูแลตามแผนกรมธรรม์ที่เลือกไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลแพง ๆ ถึงรู้ว่าประกันสุขภาพดียังไง แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง ว่าอยากได้ความคุ้มครองเพิ่มเติมในเรื่องใดบ้าง ก่อนตัดสินใจว่าเลือกทำประกันภัยสุขภาพ ที่ไหนดี เรารูปแบบประกันภัยสุขภาพที่น่าสนใจมาแนะนำ ดังนี้

  • ประกันภัยสุขภาพสุขใจรักษ์ จากวิริยะประกันภัย : ที่ช่วยให้คุณอุ่นใจว่ายามเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ได้รับความคุ้มครองผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย และสามารถซื้อความคุ้มครองผู้ป่วยนอกเพิ่มเติม โดยมีเบี้ยเริ่มต้น 15,132 บาทต่อปี คุ้มครองแบบเหมาจ่ายที่ไม่จำกัดวงเงินค่ารักษาต่อปี ด้วยวงเงินค่ารักษาสูงสุดถึง 4,500,000 บาทต่อครั้ง และลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท
  • ประกันภัยสุขภาพ Health Easy จากเมืองไทยประกันภัย : ที่มีการอัปเกรดค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสวัสดิการแบบเหมาจ่ายตามจริงได้สูงสุดถึง 500,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี และครอบคลุมค่าห้องตามจริงสูงสุดอีก 4,000 บาทต่อวัน จัดเต็ม 365 วัน โดยมีค่าเบี้ยประกันเริ่มต้น 2,160 บาทต่อปี
  • ประกันภัยสุขภาพอุ่นใจรักษ์ โกลด์ จากวิริยะประกันภัย : ให้ความคุ้มครองครอบคลุมการดูแลทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยในโดยไม่ต้องสำรองจ่าย สำหรับเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพและในเครือ BDMS ทั่วประเทศ มอบวงเงินค่ารักษาสูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อครั้ง
  • ประกันสุขภาพทิพยจัดเต็ม 15,000 จากทิพยประกันภัย : มอบวงเงินคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท ช่วยให้อุ่นใจเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าผ่าตัด จากการเจ็บป่วย และอุบัติเหตุ รวมการรักษาต่อเนื่องทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เพียงจ่ายเบี้ยประกัน 15,000 บาทต่อปี ราคาเดียวทุกช่วงอายุ 

เชื่อว่าข้อมูลในข้างต้นช่วยตอบคำถามคาใจของหลาย ๆ คนเกี่ยวกับประกันสังคมและประกันภัยสุขภาพได้ไม่น้อยทีเดียว ส่วนใครที่อยากเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ตนเองในวันที่เจ็บป่วยด้วยการทำประกันภัยสุขภาพ ฮักส์ยินดีเป็นเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาและดูแลทุกเรื่องประกันภัย หากต้องการสอบถามโทรปรึกษาฮักส์ได้ที่ 0 2975 5855 หรือเพิ่มเพื่อนในช่องทาง Line มาพูดคุยกันนะ


#HUGS

#LifeALife

#LifeIsAllRight

#ฮักส์เคียงข้างทุกไลฟ์สไตล์

#ง่ายทุกการใช้ชีวิต

#ฮักส์จริงใจใส่ใจดูแลคุณ

#หมดห่วงเรื่องสุขภาพให้ฮักส์ดูแลคุณ

#ประกันสุขภาพ

#ฮักส์ประกันภัยสุขภาพ

ช่องทางเป็นเพื่อนกับฮักส์

Facebook : HUGS Insurance
Line : HUGS Insurance

scroll top
ติดตาม "HUGS"
ช่องทางชำระเงิน
  • ชําระเงินผ่านบัตร visa, visa payment
  • ชําระเงินผ่านบัตร mastercard, mastercard payment
  • ชําระเงินผ่านบัตร jcb, jcb payment
  • ชําระเงินผ่าน unionpay, unionpay payment
  • ชําระเงินผ่าน discover, discover payment
  • ชําระเงินผ่าน american express, american express payment
  • ชําระเงินผ่าน diners club, diners club payment
ใบรับรอง/ใบอนุญาต
  • ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย, oic certificate
  • ประมวลผลบนระบบคลาวด์, aws, amazon-web-services รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ https, ssl certificate https
  • tiba
+