5 โรคร้ายจากฝุ่น PM 2.5 ภัยใกล้ตัวกระทบต่อสุขภาพ
เขียนเมื่อวันที่ 15/07/2021
โรคร้ายจากฝุ่น PM 2.5 ภัยใกล้ต้วที่ไม่ควรมองข้าม
ฝุ่น PM 2.5 เป็นภัยร้ายที่นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ยังก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก โดยต้นตอของปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกิดจากไอเสียรถยนต์ อุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า รวมถึงการเผาไหม้ในที่โล่ง อีกทั้งมีข้อมูลจากนักวิชาการสิ่งแวดล้อมว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ เกิดจากไนโตรเจนไดออกไซด์ (No2) ที่ถูกปล่อยออกมาสู่อากาศมากเกินไป ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับโอโซนแดด และแสงแดด กลายเป็นฝุ่นขนาดเล็กที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพ และเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิต
ควันจากท่อไอเสียเป็นอีกสาเหตุของปัญหามลภาวะในปัจจุบัน
พร้อมรับมือ! 5 โรคร้ายจากฝุ่น PM 2.5 อันตรายต่อสุขภาพ
- โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
หากสูดดมฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ มีอาการเบื้องต้น คือ เกิดการระคายเคืองที่จมูก แสบจมูก ไอ และมีเสมหะ หากปล่อยไว้จนเรื้อรังมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งปอด
- โรคเกี่ยวกับดวงตา
ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็ก สามารถปลิวเข้าตาได้และทำให้ตาแห้ง เกิดการระคายเคือง แสบตาตลอดเวลา หากมีปริมาณของฝุ่นในดวงตามากก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย
- โรคผิวหนัง
เมื่อผิวหนังสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการอักเสบ มีสิว และเป็นผื่น อีกทั้งมีผลเสียทำให้ผิวเสื่อมสภาพ และหย่อนคล้อยง่ายขึ้น
- โรคเกี่ยวกับสมอง
ฝุ่น PM 2.5 สามารถผ่านสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง เลือดมีความหนืด ส่งผลให้เสี่ยงเกิดลิ่มเลือดในสมอง อีกทั้งมีความเสี่ยงทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว ทำให้เส้นเลือดในสมองตีบ เป็นเหตุให้เกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาต และเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิต
- โรคหัวใจ
หากสูดฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในปริมาณมาก และติดต่อกันเป็นเวลานาน มีส่วนทำให้เกิดตะกอนในหลอดเลือด ส่งผลให้เกิดหัวใจวาย หรืออาการหลอดเลือดสมองตีบ ที่รุนแรงไปกว่านั้นคือทำให้หัวใจวายเฉียบพลัน
กลุ่มเสี่ยงที่เกิดโรคร้ายจากฝุ่น PM 2.5 ได้ง่ายกว่าคนสุขภาพแข็งแรง
ผู้สูงอายุ : เมื่ออายุมากขึ้นอวัยวะภายในร่างกายจะเริ่มเสื่อมถอย ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง เมื่อต้องเจอกับฝุ่น PM 2.5 ก็มีความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ และหอบหืด
หญิงมีครรภ์ : ฝุ่น PM 2.5 นอกจากส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่แล้ว ยังเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ เสี่ยงทำให้แท้ง และเพิ่มอัตราการตายของเด็กอีกด้วย
เด็กเล็ก : เด็กเล็กที่อยู่ในวัยกำลังพัฒนา หากได้รับฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในร่างกาย มีส่วนทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของระบบต่าง ๆ และเสี่ยงเกิดโรคร้ายตามมา
ผู้ที่มีโรคประจำตัว : ผู้ป่วย หรือคนที่โรคประจำตัว อาทิ โรคปอด โรคหัวใจ หากได้รับฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในร่างกายมีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
การหลีกเลี่ยงไม่เผชิญกับฝุ่น PM 2.5 ถือว่าเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือการเตรียมพร้อมรับมือ และป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 ให้ได้มากที่สุด
หน้ากากอนามัย N95 ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ได้
วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 ลดความเสี่ยงเกิดโรคร้าย
- สวมใส่หน้ากากอนามัย N95 ทุกครั้งก่อนออกจากตัวอาคาร และทิ้งทันทีเมื่อใช้เสร็จ ไม่ควรนำกลับมาใช้ใหม่
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการออกกำลังกาย เพราะถ้าใช้แรงมากหรือหายใจแรง ก็มีส่วนทำให้สูดฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในปริมาณมาก ซึ่งทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้
- ผู้สูงอายุ, เด็ก, หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการออกมาภายนอกอาคาร
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณสมบัติกรองฝุ่น PM 2.5 ได้
- ติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับเช็คค่าฝุ่น PM 2.5 ในแต่ละวัน
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคร้ายจากฝุ่น PM 2.5 นอกจากการป้องกันตัวเองที่รัดกุมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือสังเกตตัวเองว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ หากพบอาการหายใจลำบาก หน้ามือ อ่อนแรง หรือไอติดต่อกัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างทันท่วงที ก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงเป็นภัยอันตรายถึงชีวิต แต่การเข้ารับการรักษาแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อย การทำประกันภัยสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยประกันภัยจะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม ฮักส์มีประกันภัยสุขภาพจากบริษัทชั้นนำที่น่าสนใจ จ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียงหลักพัน แต่ความคุ้มครองถึงหลักแสน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0 2975 5855 เราพร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้ได้ประกันภัยสุขภาพที่ดี และตอบโจทย์แก่ผู้เอาประกันมากที่สุด
อ้างอิงข้อมูล : ไทยรัฐ, สมิติเวช, รามา แชนแนล