อันตรายจากน้ำหวาน น้ำอัดลม ภัยเงียบที่ต้องระวัง
เขียนเมื่อวันที่ 12/07/2021
ปัญหาสุขภาพที่คนรักน้ำหวานและน้ำอัดลมควรรู้
น้ำหวาน ชานมไข่มุก และน้ำอัดลม หลายต่อหลายคนยกให้เครื่องดื่มยอดนิยม เพราะรสชาติอร่อย ให้ความสดชื่น ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ดี ทำให้ผู้คนทุกเพศทุกวัยต่างชื่นชอบดื่มน้ำหวานหรือน้ำอัดลมในโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างทานอาหาร พักเบรก ทำงาน ในงานปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ แม้เครื่องดื่มประเภทนี้ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย แต่รู้ไหมว่ามีผลเสียต่อร่างกายไม่น้อยเลย ส่วนน้ำหวาน น้ำอัดลมมีอันตรายอะไรแฝงอยู่บ้าง มาดูกัน
ภัยร้ายที่มาพร้อมความหวาน มีอะไรบ้าง
เครื่องดื่มยอดฮิตอย่างน้ำหวาน น้ำอัดลม ชาเย็น กาแฟเย็น และเครื่องดื่มบรรจุขวดชนิดต่าง ๆ ล้วนถูกปรุงแต่งรสชาติให้หวานถูกปากผู้บริโภค โดยภัยร้ายที่มาพร้อมรสชาติแสนหวาน มีดังนี้
น้ำตาล
กินเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมากเสี่ยงโรคอ้วน
ในน้ำหวานและน้ำอัดลมส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำตาลมากเกินไป ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้รับมากเกินความต้องการไปสะสมกลายเป็นไขมัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนได้
กรดคาร์บอนิก
เป็นสารที่ใส่ในน้ำหวานสไตล์อิตาเลียนโซดาหรือน้ำอัดลมเพื่อเพิ่มความซาบซ่าชื่นใจ นอกจากช่วยเพิ่มรสชาติซาบซ่าให้แก่เครื่องดื่มแล้ว กรดคาร์บอนิกยังมีโทษต่อร่างกายหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น
ทำให้ฟันผุ
- เนื่องจากกรดคาร์บอนิก มีฤทธิ์กัดกร่อนหินปูนและเคลือบฟันได้ ดังนั้นอาจทำให้ฟันผุกร่อนได้เช่นกัน
ปวดแน่นท้อง หรือท้องอืด
- การทานเครื่องดื่มที่มีกรดคาร์บอนิกไม่ต่างจากการเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระเพาะ บางครั้งทำให้มีอาการปวดแน่นท้อง มีลมในท้อง หรือท้องอืด เป็นต้น
คาเฟอีน
คาเฟอีนเป็นสารที่นิยมนำมาทำเครื่องดื่มและขนมที่ผู้คนนิยมรับประทานกันในชีวิตประจำวัน อาทิ น้ำอัดลม ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง หรือช็อกโกแลต เป็นต้น แม้คาเฟอีนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายตื่นตัวไม่ง่วงนอน แต่การบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นประจำหรือได้รับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป ก็มีผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี อาทิ มีอากากระสับกระส่าย วิตกกังวล นอนไม่หลับ ใจสั่น เป็นแผลในกระเพาะอาหาร และระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายมีปัญหา เป็นต้น
กรดซิตริก
เป็นสารกันบูดเพื่อถนอมอาหารที่นิยมใส่ในน้ำอัดลมทำให้สามารถเก็บได้นานขึ้น แม้กรดชิตริกเป็นกรดอินทรีย์ที่สามารถรับทานได้ แต่ถ้าทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีกรดซิตริกมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง คือ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด หรือเกิดการระคายเคืองในทางเดินอาหาร เป็นต้น
ชานมไข่มุก เป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและคาเฟอีนในแก้วเดียว
กินน้ำหวาน น้ำอัดลมมาก ๆ เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
กระดูกและฟันผุกร่อน
เพราะกรดคาร์บอนิกที่มีอยู่ในน้ำอัดลมเป็นตัวการทำลายสารเคลือบฟัน ทำให้ฟันสึกกร่อนแล้วยังทำให้กระดูกของเราผุกร่อนด้วย
โรคอ้วน
การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้มีน้ำหนักตัวมากขึ้นและเสี่ยงเป็นโรคอ้วน
สูญเสียแคลเซียม
การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม ชาเย็น หรือชานมไข่มุก ทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียมโดยไม่จำเป็น เพราะแคลเซียมถูกขับออกไปพร้อมกับปัสสาวะเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสเป็นโรคกระดูกผุได้ง่าย
นอนไม่หลับ
เนื่องจากฤทธิ์ของคาเฟอีนในน้ำอัดลมไปกระตุ้นระบบประสาท ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ
มีปัญหาเรื่องผิว
การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำมีผลกระทบต่อผิวพรรณไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ เพราะน้ำอัดลมมีสารบางตัวที่มีฤทธิ์ขจัดน้ำออกจากร่างกาย เมื่อร่างกายขาดน้ำย่อมทำให้ผิวเกิดริ้วรอย ดูหมองคล้ำ และอาจทำให้เกิดสิว
โรคเบาหวาน
การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลปริมาณมากเป็นประจำเสี่ยงก่อให้เกิดโรคเบาหวานตามมาได้ เพราะร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือสร้างอินซูลินได้ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล
โรคมะเร็ง
น้ำอัดลมมีโมเลกุล Benzene ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง เมื่อดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำย่อมเพิ่มโอกาสเสี่ยงเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง
เมื่อรู้แล้วว่าน้ำหวาน น้ำอัดลม มีผลเสียต่อร่างกายมากถึงเพียงนี้ ควรดื่มดับกระหายคลายร้อนแต่พอดี อย่าเผลอตัวคว้าน้ำหวานหรือน้ำอัดลมออกมากินทุกครั้งที่ต้องการเติมความสดชื่นให้ร่างกาย เพราะถ้าเกิดอาการติดขึ้นมา ระวังเจอโรครุมเร้า
สำหรับใครที่อยากเพิ่มความอุ่นใจให้ตนเองในวันที่เจ็บป่วยด้วยการทำประกันภัยสุขภาพ ฮักส์ยินดีเป็นเพื่อนคู่คิดคอยให้คำปรึกษาและดูแลทุกเรื่องประกันภัยสามารถติดต่อฮักส์ได้ทั้งช่องทาง Facebook Line หรือโทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์