วัคซีนโควิดที่ดีที่สุด ช่วยหยุดเชื้อ ลดความเสี่ยงเสียชีวิต
เขียนเมื่อวันที่ 03/08/2021
วัคซีนตัวไหนดี หยุดเชื้อกลายพันธุ์ภูมิคุ้มกันสูง
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ที่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว เป็นลักษณะการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อและอัตราผู้เสียชีวิตทั่วโลกเป็นจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่ช่วยยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดรวมถึงความรุนแรงของเชื้อไวรัสชนิดนี้คือการคิดค้นและผลิตวัคซีนที่มีประสิททธิภาพในการยับยั้งและต้านเชื้อ เพื่อลดโอกาสในการแพร่ระบาดและการติดเชื้อที่รุนแรงจนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต
ณ ขณะนี้มีหลากหลายประเทศได้ทำการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีน เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประเทศที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) หน่วยงานหลักในการประเมินประสิทธิภาพ ผลการทดลองและการรับรองวัคซีนว่ามีครบทั้งเรื่องของความปลอดภัย ประสิทธิภาพในการยับยั้งความรุนแรงของโรค การต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ต่าง ๆ ป้องกันไม่ให้ผู้คนป่วยหนักหรือเสียชีวิตจาก COVID-19 โดยวัคซีนทั้งหมดจากทุกบริษัทต้องได้รับการตรวจสอบจากองค์การอนามัยโลก และหน่วยงานกำกับดูแลระดับประเทศ เพื่อพิสูจว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตกลงกันในระดับสากล และให้มั่นใจว่าวัคซีนทุกชนิดที่ผ่านการรับรองจะมีความปลอดภัยสำหรับการใช้งานในทุกประเทศทั่วโลก
ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด
วัคซีนโควิด-19ที่ WHO อนุมัติแล้ว มีชนิดไหนบ้าง?
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทางด้านองค์การอนามัยโลก ได้มีการประเมินวัคซีนที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานพร้อมได้รับการรับรองจาก WHO ทั้งหมด 6 ชนิดวัคซีน ดังนี้
1. AstraZeneca/Oxford vaccine (วัคซีนแอสตราเซเนกา)
วัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในประเทศอังกฤษ โดยการฉีดวัคซีน 2 โดส ระยะห่างกัน 28 วัน ประสิทธิภาพวัคซีนในการสร้างภูมิคุ้มกันหลังฉีดเข็มแรก 30 วัน อยู่ที่ 96.7%
2. Johnson & Johnson (วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน)
วัคซีนจากบริษัท Johnson & Johnson (J&J) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการผลิตโดยใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Recombinant viral vector vaccine) จำนวนการฉีด 1 โดส ประสิทธิภาพวัคซีนในการสร้างภูมิคุ้มกันหลังฉีดอยู่ที่ 65.5%
3. Moderna (วัคซีนโมเดอร์นา)
วัคซีนโมเดอร์นาชนิด mRNA จากบริษัทผลิตยาสัญชาติอเมริกัน มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 หลายสายพันธุ์และเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 92.1% จำนวนการฉีด 2 โดส ระยะเวลาห่างกันประมาณ 28 วัน
4. Pfizer/BionTech (วัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค)
วัคซีนไฟเซอร์ชนิด mRNA คิดค้นโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐอเมริการ่วมกับบริษัทไอโบเอ็นเท็คจากประเทศเยอรมัน เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 91.3% สามารถป้องกันความรุนแรงของเชื้อ มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 หลายสายพันธุ์ จำนวนการฉีด 2 โดส ระยะเวลาห่างกัน 21-28 วัน
5. Sinopharm (วัคซีนซิโนฟาร์ม)
วัคซีนซิโนฟาร์มผลิตมาจากเชื้อตาย ผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง (BIBP) วัคซีนมีประสิทธิภาพ อยู่ที่ 79% จำนวนการฉีด 2 โดส ระยะเวลาห่างกัน 28 วัน
6. Sinovac (วัคซีนซิโนแวค)
วัคซีนชนิดเชื้อตาย ผลิตโดยบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทคจากประเทศจีน วัคซีนที่มีประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 51% จำนวนการฉีด 2 โดส ระยะเวลาห่างกัน 2-4 สัปดาห์
ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดช่วยหยุดเชื้อ
ถึงแม้วัคซีนทั้ง 6 ชนิดจะได้รับการอนุมัติจากทางองค์การอนามัยโลก แต่วัคซีนที่ได้รับความนิยมและมีการทดสอบประสิทธิภาพว่าสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ในปัจจุบันได้คือ วันซีนชนิด mRNA ที่มีการผลิตวัคซีนด้วยการใช้เทคโนโลยีใหมจากการสังเคราะห์สารเอ็มอาร์เอ็นเอ (messenger RNA: mRNA) ที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สร้างแอนติบอดีเพื่อต่อต้านเชื้อไวรัส มีประสิทธิภาพสูงจากผลการทดสอบและมีการผลิตที่ง่ายกว่าวัคซีนชนิดอื่น โดยมีวัคซีน 2 ชนิดที่ผลิตวัคซีนด้วย mRNA คือ Pfizer และ Moderna จากผลการทดลองพบว่าวัคซีนทั้ง 2 ชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ ยับยั้งการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย พร้อมเพิ่มภูมิต้านทานสูงถึง 95% และ 94%
ประเทศไทยมีการอนุมัติวัคซีนชนิดไหนบ้าง ?
ในประเทศไทย ณ ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการอนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนที่สามารถใช้ในประเทศไทยได้ทั้งหมด 6 ชนิด คือ แอสตร้าเซนเนกา (AstraZeneca), ซิโนแวค (Sinovac), จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson), โมเดอร์นา (Moderna), ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) และ ไฟเซอร์ (Pfizer) รวมถึงวัคซีนอีก 2 ชนิด ที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติคือ สปุตนิก วี (Sputnik V) และโควาซิน (Covaxin) ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามในยุคโควิด-19 ระบาดเช่นนี้คือการเลือกทำประกันภัยวัคซีนโควิด เพราะอาการแพ้วัคซีนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และประเมินไม่ได้ว่าจะมีการแพ้รุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคลและโรคประจำตัวที่มี ความคุ้มครองประกันแพ้วัคซีนโควิดจะช่วยให้คุณอุ่นใจ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหลังได้รับวัคซีน พร้อมตัวเลือกกรมธรรม์ที่หลากหลายทั้งแบบ แพ้-เจอ-จ่าย รับเงินก้อนทันทีเมื่อได้รับผลกระทบจากวัคซีน ค่ารักษาพยาบาล ความคุ้มครองในกรณีโคม่า* สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง
ฮักส์มีแผนประกันภัยวัคซีนโควิดที่หลากหลายพร้อมตอบโจทย์คนยุคใหม่ในสถานการณ์โควิด กับค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 70 บาท/ปี จากทิพยประกันภัยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในกรณีแพ้วัคซีนโควิด 50,000 บาท* กรณีโคม่า จากการแพ้วัคซีนโควิด 500,000 บาท* ฮักส์ยินดีให้คำปรึกษาการเลือกประกันภัยวัคซีนที่เหมาะกับคุณ สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : กรมควบคุมโรค, องค์การอนามัยโลก (WHO)