loading
ยางรถยนต์มีอายุกี่ปีนับจากวันผลิต ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่

ยางรถยนต์มีอายุกี่ปีนับจากวันผลิต ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่

เขียนเมื่อวันที่ 24/11/2021

ไขข้อสงสัยยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี

สำหรับการดูแลรถยนต์ต้องหมั่นตรวจเช็คสภาพรถเป็นประจำทุกปี หรือตามระยะที่กำหนด เช่น เมื่อครบ 10,000 กม. ให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง เช็คระบบเบรกทั้งดิสก์เบรกและดรัมเบรก ตรวจสอบระบบหล่อเย็น รวมถึงเช็คสภาพยางว่าเสื่อมสภาพหรือยัง ซึ่งการตรวจสอบและทำการเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ โดยเฉพาะยางรถยนต์ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด และวันนี้ Hugs Insurance มีความรู้เกี่ยวกับยางรถยนต์มาฝาก ทั้งอายุยางรถยนต์ว่าสามารถใช้งานนานสุดกี่ปี ไปจนถึงสัญญาณเตือนถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์

ตัวเลขบนยางรถยนต์ มีความสำคัญอย่างไร

ยางรถยนต์ด้านหน้า

ตรวจเช็คตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยาง

เชื่อว่าผู้ใช้รถหลายคนสังเกตเห็นตัวเลขและตัวอักษรมากมายอยู่บนแก้มยาง ทั้งตั้งข้อสงสัยว่าสิ่งที่เห็นนั้นมีความหมายหรือความสำคัญอย่างไร โดยตัวเลขและตัวอักษรเหล่านั้น คือ ขนาดยาง ขอบเขตในการใช้งาน หากทำความเข้าใจชุดตัวเลขได้อย่างครบถ้วน นอกจากได้ความรู้แล้วยังทำให้คุณสามารถใช้งานยางรถได้อย่างถูกต้อง เช่น 185/50R15 88H มีความหมายดังนี้

  • 185 : บอกขนาดของหน้ายางหรือความกว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
  • 50 : บอกซีรีส์ยางและบอกความสูงของแก้มยางหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ (50% ของ 185 มม.)
  • R : โครงสร้างยางแบบเรเดียล
  • 15 : เส้นผ่าศูนย์กลางของวงล้อที่ไว้ใส่กับกะทะล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว หรือที่มักเรียกกันว่า ล้อขอบ 15 นิ้ว
  • 88 : เลขดัชนีในการรับน้ำหนักของยาง
  • H : ขีดจำกัดความเร็วสูงสุด

นอกจากนี้ถ้าสังเกตดี ๆ พบว่ามีตัวเลข 4 ตัวอยู่บนแก้มยางรถยนต์ นั่นคือสัปดาห์และปีที่ผลิตยาง โดยเวลาอ่านต้องดูเป็นคู่ ซึ่งเลขคู่หน้าหมายถึงสัปดาห์ที่ผลิต (ในหนึ่งปีมี 52 สัปดาห์) ส่วนเลขคู่หลังหมายถึง ปี ค.ศ. ที่ผลิต เช่น "3818" แปลความหมายได้ว่า ยางผลิตในสัปดาห์ที่ 38 ปี 2018

ต้องยอมรับว่าการอ่านขนาดของยางรถยนต์ รวมถึงสัปดาห์และปีที่ผลิตยางนั้น ช่วยให้ง่ายต่อการเลือกซื้อยางรถยนต์ใหม่ให้ตรงกับขนาดยางเดิมที่ใช้อยู่ ทั้งยังทราบว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนยาง

อายุการใช้งานยางรถยนต์ที่เหมาะสม

ตามปกติแล้วหากยางรถยนต์ที่ใช้งานอยู่ผลิตในสัปดาห์ที่ 38 ปี 2018 มีอายุรับประกันการใช้งานอยู่ระหว่าง 4-5 ปี (นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน) เช่น เริ่มใช้งานต้นปี 2019 ถ้าต้องการใช้งานยางเต็มลิมิตคือ 6 ปี เท่ากับว่าคุณควรเปลี่ยนยางรถใหม่ภายในปี 2023 หรือปี 2024 เพื่อใช้รถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนยางรถยนต์

นี่เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะถึงมีการระบุในทิศทางเดียวกันว่า ควรเปลี่ยนยางรถชุดใหม่ทุก ๆ 3-5 ปี หรือเมื่อรถวิ่งครบ 50,000  กิโลเมตร แต่บางครั้งอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนยางก่อนถึงอายุการใช้งาน หากตรวจพบสัญญาณเตือนเหล่านี้

1. สภาพดอกยาง

สภาพดอกยางรถ

ความลึกของร่องดอกยางบอกอายุการใช้งานของยางรถยนต์ได้

คุณสมบัติของดอกยางคือการช่วยรีดน้ำเวลาต้องขับบนถนนที่มีน้ำขัง เพื่อให้หน้ายางยังคงสัมผัสผิวถนนได้ปกติ หากดอกยางไม่ดีโอกาสที่รถจะลื่นไถลมีสูง ตามปกติความลึกของดอกยางใหม่จะอยู่ประมาณ 8-9 มิลลิเมตร ถ้าดอกยางลึกไม่ถึง 3 มิลลิเมตร แนะนำให้เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ โดยมีวิธีวัดความลึกของร่องดอกยางดังนี้

  • ใช้ไม้ขีดไฟทิ่มลงไปในร่องยาง ถ้าเห็นหัวไม้ขีดสีแดงหมายถึงดอกยางเหลือน้อยเกินไป ควรเปลี่ยนยางใหม่
  • นำเหรียญบาทไปเสียบในร่องยาง ต้องลึกไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของเหรียญบาท
  • เช็คจากตุ่มในร่องดอกยางหากหน้ายางเสมอกับตุ่มแสดงว่ายางสึกมากแล้วต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที

2. แก้มยางแตกหรือแยกส่วน

ยางรถยนต์บางรุ่นอาจมีหน้ายางที่แข็งแรงทนทาน ทำให้ดอกยางสึกหรอน้อยแม้ผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน ด้วยเหตุนี้นอกจากตรวจเช็คความลึกของดอกยาง ผู้ใช้รถควรสังเกตแก้มยางว่ามีรอยย่น รอยแตกลายงาหรือไม่ เพราะนี่คือสัญญาณเตือนว่ายางกำลังเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที ถ้าฝืนใช้งานต่ออาจก่อให้เกิดอันตรายบนท้องถนนเนื่องจากยางระเบิดหรือแตกขณะขับขี่ได้ นอกจากได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังต้องเสียค่าซ่อมรถอีกด้วย

 

3. ยางบวม 

อาการยางบวมเกิดขึ้นเมื่อยางเริ่มเสื่อมสภาพ เนื่องจากการขับตกหลุมหรือเสียดสีอย่างรุนแรง ไปจนถึงข้อบกพร่องในกระบวนการผลิตซึ่งทำให้โครงสร้างยางไม่แข็งแรง โดยบริเวณที่เกิดการบวมของยางคือแก้มยางหรือหน้ายาง นอกจากนี้ผู้ใช้รถอาจสังเกตได้ในขณะขับขี่ถ้าตัวรถมีอาการสั่นเมื่อขับเร็ว หรือพวงมาลัยสั่นแม้ตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่แล้ว แนะนำให้เปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที เพราะอาจก่อให้เกิดการระเบิดได้เมื่อขับด้วยความเร็วสูง

4. ยางฉีกขาด 

เมื่อยางได้รับความเสียหายจากการฉีกขาดหรือเหยียบวัสดุมีคมไม่ว่าจะเป็น หิน เหล็ก ฝาท่อน้ำ เพราะถึงสามารถซ่อมแซมให้ยางกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกครั้ง แต่อาจเกิดปัญหาตามมา เช่น ยางรั่วซึมตรงตำแหน่งที่ปะ หรือตอนยางรั่วขับบดยางเป็นเวลานาน ทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

วิธียืดอายุการใช้งานรถยนต์

ไม่บรรทุกของหนักมากเกินไป 

รถยนต์แต่ละรุ่นสามารถรับน้ำหนักบรรทุกแตกต่างกัน หากบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่ยางเส้นนั้น ๆ รับได้ อาจทำให้เกิดความเสียหาย ดังนี้

  • โครงสร้างของยางได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณแก้มยางหรือขอบยาง อาจแตก หัก หรือระเบิด
  • ทำให้ดอกยางสึกหรอเร็วกว่าปกติ เป็นผลให้อายุการใช้งานลดลงจนต้องเปลี่ยนยางใหม่เร็วขึ้น
  • น้ำหนักบรรทุกที่เยอะทำให้ความร้อนภายในยางสูงขึ้นจนเกิดผลเสียต่อเนื้อยาง

อย่างไรก็ดีหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง แนะนำควรทำแรงดันลมให้เหมาะสม เพื่อลดความเสียหายต่อโครงสร้างของยาง

หมั่นวัดระดับความดันลมยางเป็นประจำ 

คนกำลังเติมรถยางรถ

แรงดันลมยางรถที่เหมาะสมช่วยยืดอายุยางรถยนต์ 

ลมยางรถยนต์ต้องไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป เพราะถ้าเติมลมยางน้อยไป อาจส่งผลให้ขอบยางหรือแก้มยางปริแตกจนทำให้ยางระเบิดได้ ขณะที่การเติมลมยางแข็งเกินไป นอกจากยางยึดเกาะถนนได้ไม่ดีจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เช่น หากตกหลุมขณะที่ขับมาด้วยความเร็วแรงกระแทกอาจทำให้ยางระเบิดได้ ฉะนั้นควรหมั่นวัดระดับความดันลมยางเป็นประจำ ทั้งเติมแรงดันลมยางในปริมาณที่พอเหมาะขึ้นอยู่กับประเภทของรถและขนาดยาง

  • รถเก๋งขนาดเล็ก เติมแรงดันลมยางประมาณ 25-30 ปอนด์
  • รถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่ เติมแรงดันลมยางประมาณ 30-35 ปอนด์
  • รถกระบะความดันลมยาง ไม่ควรเติมแรงดันลมยางเกิน 65 ปอนด์

ความเร็วรถ 

หากขับเร็วบนถนนที่เรียบไม่เสมอกันอยู่เป็นประจำ หรือขับรถตกหลุมอย่างแรง อาจทำให้ยางรั่วซึมจนทำให้ยางรถยนต์แบนได้ ทั้งอาจทำให้ล้อแม็กแตกจนเสียการควบคุมรถและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

 

เห็นได้ว่าอายุการใช้งานยางรถยนต์ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ถ้ายางรถยนต์เสียหายอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ เพราะยางเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดในรถ ดังนั้นผู้ใช้รถที่ต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ และรู้ว่าควรเลือกยี่ห้อไหนดี ลองเปรียบเทียบข้อมูลแบรนด์ยางรถยนต์ เช่น Michelin Yokohama Goodyear Dunlop Bridgestone และ Nexen เพื่อให้ได้ยางที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ทั้งมีราคาที่สมเหตุสมผล ประหยัดเงินกระเป๋า

นอกจากนี้การทำประกันภัยรถยนต์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาในอนาคตก็อุ่นใจได้ว่ามีบริษัทประกันภัยเข้ามาช่วยดูแลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และฮักส์มีแผนประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+ รวมถึงแผนประกันภัย พ.ร.บ. รถยนต์ จากบริษัทชั้นนำมาให้คุณเลือกรับความคุ้มครอง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855


#HUGS

#LifeALife

#LifeIsAllRight

#ฮักส์เคียงข้างทุกไลฟ์สไตล์

#ง่ายทุกการใช้ชีวิต

#ฮักส์จริงใจใส่ใจดูแลคุณ

#หมดห่วงเรื่องรถยนต์ให้ฮักส์ดูแลคุณ

#ประกันรถยนต์

#ประกันรถยนต์ ชั้น 1

#ฮักส์ประกันภัยรถยนต์

ช่องทางเป็นเพื่อนกับฮักส์

Facebook : HUGS Insurance
Line : HUGS Insurance

scroll top
ติดตาม "HUGS"
ช่องทางชำระเงิน
  • ชําระเงินผ่านบัตร visa, visa payment
  • ชําระเงินผ่านบัตร mastercard, mastercard payment
  • ชําระเงินผ่านบัตร jcb, jcb payment
  • ชําระเงินผ่าน unionpay, unionpay payment
  • ชําระเงินผ่าน discover, discover payment
  • ชําระเงินผ่าน american express, american express payment
  • ชําระเงินผ่าน diners club, diners club payment
ใบรับรอง/ใบอนุญาต
  • ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย, oic certificate
  • ประมวลผลบนระบบคลาวด์, aws, amazon-web-services รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ https, ssl certificate https
  • tiba
+