เมาไม่ขับ ฉลองปีใหม่ให้ปลอดภัย นับถอยหลังส่งความสุขข้ามปี

เขียนเมื่อวันที่ 22/12/2021

มีสติก่อนสตาร์ท ช่วยลดการเสียชีวิตช่วงปีใหม่

เทศกาลปีใหม่เต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง หลายบ้านมีการจัดงานเลี้ยงเพื่อรวมเพื่อนฝูงและครอบครัวมาร่วมกินดื่มด้วยกัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อมีการฉลองปีใหม่ และสิ่งที่มักจะตามมาหลังการเลี้ยงฉลองคืออุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับรถ ทำให้มีการรณรงค์เกี่ยวกับ 7 วันอันตราย

รู้จัก 7 วันอันตราย ความอันตรายช่วงปีใหม่

7 วันอันตรายเป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด มักจะตรงกับวันหยุดยาวช่วงเทศกาล ทำให้มีการกำหนดช่วงเวลา 7 วันอันตรายให้คนยกระดับความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน อุบัติเหตุอาจจะเป็นการขับรถตัดหน้า การขับขี่ขณะมึนเมา การขับรถสวนเลน และสาเหตุใดก็ได้ที่เกิดบนท้องถนน โดยปกติจะกำหนดวันโดยอิงตามวันที่จัดงานเทศกาล โดยนับก่อนวันงาน 3 วันและหลังวันงาน 3 วัน เช่น เทศกาลปีใหม่ ช่วง 7 วันอันตรายมักจะตรงกับวันที่ 29 ธันวาคม – 4 มกราคม 

ข้อเสียของการเมาจนขาดสติ

การสังสรรค์ในวันปีใหม่นำไปสู่ปัญหาเมาแล้วขับได้

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้รู้สึกเมา ซึ่งความเมานี้ส่งผลกระทบในเรื่องสุขภาพและพฤติกรรมก้าวร้าวที่ไม่ควรมองข้าม ดังนี้

ผลต่อพฤติกรรม

เครื่องดื่มมึนเมามีชื่อที่มักได้ยินคนโบราณเรียกว่าน้ำเปลี่ยนนิสัย นั่นก็เพราะว่าเมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจะมีนิสัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยก่อนให้เกิดพฤติกรรมดังต่อไปนี้ 

• ขาดสติและการยับยั้งชั่งใจ

การขาดสติเมื่อดื่มจนเมามายจะทำให้กระทำการใดลงไปโดยขาดการไตร่ตรองหรือยั้งคิด บ่อยครั้งการกระทำนั้นกลับมาทำให้รู้สึกอับอายในภายหลัง

• มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้นิสัยเปลี่ยนไป เช่น จากเดิมพูดน้อยอาจจะเปลี่ยนเป็นคนพูดมาก จากคนร่าเริงอาจจะนั่งร้องไห้ตลอดการดื่มก็ได้

• ถูกยั่วยุได้ง่าย 

เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายปริมาณมากจะคล้อยตามเรื่องต่าง ๆ ได้ง่าย และรู้สึกถูกกระตุ้นได้ง่าย การทะเลาะเบาะแว้งและใช้กำลังจึงมักเกิดขึ้นหลังการดื่มแอลกอฮอล์หนัก ๆ

ผลต่อสุขภาพ

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อสุขภาพหลายประการหากดื่มในปริมาณมากเกินไป ผู้ที่รักการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงควรรู้จักจำกัดการดื่มของตนเองให้เหมาะสม ซึ่งมีโอกาสก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ดังนี้ 

• มีโอกาสเกิดมะเร็งสูง

การดื่มจัดส่งผลให้มีโอกาสในการเกิดมะเร็งสูงกว่าผู้ที่ไม่ดื่มถึง 10 เท่า โดยเฉพาะมะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งในตับ และมะเร็งในตับอ่อน

• สมรรถภาพทางเพศลดลง

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้อารมณ์ทางเพศลดลง บางรายอาจส่งผลให้ลูกอัณฑะมีขนาดเล็กลงและเกิดอาการฝ่อได้อีกด้วย

• ก่อให้เกิดโรคโลหิตจาง

แอลกอฮอล์ที่อยู่ในเครื่องดื่มจะส่งผลให้การทำงานของเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงเสีย และยังส่งผลให้เม็ดเลือดผลิตออกมาได้น้อยลง ก่อให้เกิดโรคโลหิตจางและภูมิคุ้มกันต่ำ

• มีอาการชาตามปลายมือและเท้า

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนปลาย ทำให้รู้สึกคล้ายเหน็บชาบริเวณปลายมือและปลายเท้า หากดื่มหนักอาจส่งผลให้มือไม้สั่นได้

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำได้ แต่ต้องรู้จักขอบเขตการดื่มของตนเองด้วย และหากมีการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาควรงดจากการขับขี่ยวดยานพาหนะเพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อการป้องกันที่อุ่นใจกว่าเดิมควรมีประกันภัยรถยนต์และประกันภัยอะไหล่รถยนต์เผื่อกรณีฉุกเฉินต้องส่งซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่

ความสำคัญของการเมาไม่ขับ

เมาไม่ขับเป็นสิ่งที่ได้รับการรณรงค์ในทุกเทศกาล โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ที่มีการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาเป็นจำนวนมาก ในทุกปีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จะเข้ามารณรงค์การเมาแล้วขับ เพื่อลดอุบัติเหตุ การตระหนักถึงปัญหาการเมาแล้วขับขี่จะช่วยลดโอกาสในการเกิดเหตุต่าง ๆ ได้ดังนี้

• ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

การให้ความสำคัญกับการเมาแล้วไม่ขับจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ เพราะการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาทำให้การประมวลผลของระบบสมองและประสาทช้า ตัดสินใจได้ช้าลง ขับรถเร็วขึ้น โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุจึงสูง

• ลดการทะเลาะเบาะแว้ง

การขับรถแล้วเกิดการเฉี่ยวชนหรือผิดใจกันตอนจอดไฟแดง สามารถนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งใหญ่โตถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตได้เลยหากคนขับมีอาการมึนเมา

• ลดการเสียเงินโดยใช่เหตุ

การขับรถเมื่อมึนเมาเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากโดนจับได้จะต้องเสียค่าปรับ ซึ่งหากปฏิบัติตามกฎหมายไม่ขับรถตอนเมา ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับค่าปรับได้ รวมถึงหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ต้องจ่ายค่าทำขวัญและค่าเสียหายแก่คู่กรณี การไม่ขับตอนเมาจึงป้องกันการเสียทรัพย์ได้ดีกว่า

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับขี่จึงเป็นอีกทางที่ช่วยลดอุบัติเหตุ และเพื่อความไม่ประมาทควรมีการทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้เผื่อฉุกเฉินหรืออาจจะทำประกันอะไหล่รถยนต์ที่คุ้มครองทั้งการซ่อมและการเปลี่ยนอะไหล่แท้ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ฮักส์ ได้ทั้งทาง Facebook Line หรือโทร 0 2975 5855