สีปัสสาวะบอกโรค ลางร้ายของปัญหาสุขภาพ
เขียนเมื่อวันที่ 26/07/2021
สีปัสสาวะผิดปกติ ระวัง! โรคร้ายมาเยือน
ปัญหาเรื่องการขับถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะที่ผิดปกติ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรนิ่งนอนใจโดยเด็ดขาด อีกทั้งหากสังเกตเห็นสีปัสสาวะมีความแปลกแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากยา และอาหารที่รับประทาน หรือเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังมีปัญหาเรื่องสุขภาพได้เช่นกัน โดยปกติแล้วปัสสาวะจะมีเหลืองอ่อนใส ไม่ขุ่น หากมีความแตกต่างออกไป ถือเป็นลางร้ายต้องรีบพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพทันที
สีปัสสาวะมีความผิดปกติ เสี่ยงเกิดโรคอะไรบ้าง
สีปัสสาวะผิดปกติ สัญญาณเตือนของโรค
ถ้าไม่อยากตกอยู่ในความเสี่ยงมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ควรหมั่นตรวจเช็คร่างกาย และสังเกตสีของปัสสาวะว่ามีความผิดปกติดังต่อไปนี้หรือไม่
ปัสสาวะสีขาวขุ่น
สาเหตุเกิดจากการดื่มนมปริมาณมากทำให้เกิดผลึกของฟอสเฟต รวมถึงเกิดจากโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคกรวยอักเสบ และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นอกจากนี้อาจเกิดจากน้ำเหลืองปนอยู่ในปัสสาวะได้เช่นกัน
ปัสสาวะไม่มีสี
หากสังเกตเห็นปัสสาวะใสไม่มีสี สาเหตุมาจากดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไปทำให้ระดับเกลือแร่ไม่ร่างกายต่ำ ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือหากระดับเกลือแร่ต่ำมากอาจมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง นอกจากนี้ยังถือเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน และโรคไตอีกด้วย
ปัสสาวะสีส้ม
สาเหตุมาจากร่างกายมีภาวะขาดน้ำ รวมถึงอาจมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับถุงน้ำดีหรือตับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ปัสสาวะสีส้มอาจมีผลมาจากการกินวิตามินบี 2 หรือยาบางชนิดได้เช่นกัน
ปัสสาวะสีส้มหรือสีน้ำตาล
เกิดจากการขาดน้ำรุนแรง หรือเป็นดีซ่าย และมีภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย รวมถึงการกินยาบางชนิดก็ส่งให้ปัสสาวะมีที่ผิดแปลกไปจากเดิมได้เช่นกัน
ปัสสาวะสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ
อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายอย่างโรคตับ หรือโรคมะเร็งผิวหนัง นอกนากนี้การยาบางชนิดก็มีส่วนทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน
ปัสสาวะสีเขียว
นอกจากยาบางชนิดจะทำให้ปัสสาวะมีสีเขียวแล้ว ยังเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะอีกด้วย
ปัสสาวะสีม่วง
มักพบในผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะรวมถึงมีอาการคิดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะสีฟ้า
สาเหตุเกิดจากโรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิก ทำให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงผิดปกติ หรือเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะสีชมพูและสีแดง
เป็นสัญญาณเตือนของโรคไต โรคนิ้วในไต โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือโรคเนื้องอกมะเร็งที่ไต โรคกระเพาะปัสสาวะ และต่อมลูกหมาก
สำหรับสีปัสสาวะที่ไม่มีความเสี่ยงของการเกิดโรค ได้แก่
ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม : เป็นสีที่ปกติไม่มีสัญญาณของโรค แต่แนะนำให้ดื่มมากขึ้น
ปัสสาวะสีเหลืองสด : เกิดจากทานวิตามินหรืออาหารเสริม ซึ่งไม่อันตราย แต่หากทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน
ปัสสาวะสีเหลืองอ่อนหรือสีเหลืองทอง : บ่งบอกว่าร่างกายมีความปกติดี ไม่มีสัญญาณของโรคให้เป็นกังวล
นอกจากสีปัสสาวะสามารถบอกโรคได้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถพบได้บ่อยคือโรคทางเดินปัสสาวะ ส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกิดกับไต ท่อไร ท่อปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะ อาการเบื้องต้นที่สามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองคือ
- รู้สึกปวดหลังหรือปวดข้างลำตัว
- รู้สึกปวดขณะปัสสาวะหรือปัสสาวะแสบขัด
- ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ปัสสาวะไม่สุด กลั้นไม่อยู่ และปัสสาวะมีปริมาณน้อย
- ปัสสาวะมีเลือดปนออกมา รวมถึงปัสสาวะมีสีขาวขุ่น สีน้ำตาล และสีชมพู
- ปัสสาวะมีกลิ่นที่ผิดปกติ
โรคทางเดินปัสสาวะที่ต้องระวัง เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ
โรคทางเดินปัสสาวะมีโอกาสรักษาหาย ส่วนระดับความรุนแรงขึ้นอยู่กับอาการ ณ ช่วงนั้น เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดอาการที่รุนแรง หรือมีภาวะแทรกซ้อนควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว สำหรับโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะที่ต้องระวัง และสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ มีดังนี้
โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อจากแบคทีเรียบริเวณรอบท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบในอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงเกิดโรคท่อปัสสาวะอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคกรวยไตอักเสบ และโรคอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
นิ่วจากไตหรือต่อไต่หลุงลงมาทำให้เกิดการสะสมเพิ่มขนาดในกระเพาะปัสสาวะ หรืออาจเป็นนิ่วที่เกิดขึ้นเองในกระเพาะปัสสาวะ
โรคไตเรื้อรัง
เกิดจากไตถูกทำลายจากสาเหตุของโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคถุงน้ำดี หรือไตอักเสบ ส่งผลให้ไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
โรคต่อมลูกหมากโต
เกิดจากต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ผิดปกติแล้วไปกดทับที่ท่อปัสสาวะให้ตีบเล็กลง จึงทำให้ปัสสาวะติดขัด รวมถึงผนังกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้นจนกับเก็บน้ำปัสสาวะได้น้อยลง เป็นเหตุให้ปัสสาวะบ่อย และถูกกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะแบบกะทันหัน
หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
มีส่วนทำให้อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงเฮอร์ดมนมีการเปลี่ยนแปลง
กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน
เป็นภาวะที่พบมากในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป อาการที่เกิดขึ้นคือปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวันและกลางคืน รู้สึกปวดปัสสาวะเฉียบพลัน และปัสสาวะเล็ด
โรคมะเร็งระบบทางเดินปัสสาวะ
ถือเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ต้องเฝ้าระวังอย่างมาก โดยมะเร็งที่มักเกิดขึ้นได้คือ โรคมะเร็งไต โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
เพื่อยับยั้งของการเกิดโรคภัยที่ส่งผลเสียต่อร่างกายควรหมั่นตรวจเช็คสุขภาพ เพราะหากเสี่ยงเป็นโรคร้ายจะได้ทำการรักษาทัน อีกทั้งการทำประกันภัยสุขภาพก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะบางทีโรคภัยมักมาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว หากเจ็บป่วยในอนาคตจะได้อุ่นใจว่ามีเงินสำหรับการรักษา ฮักส์มีประกันสุขภาพที่พร้อมให้การคุ้มครองอย่าครอบคลุมและตรงใจ เบี้ยเริ่มต้นเพียง 2,160 บาท หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ 0 2975 5855 พร้อมให้คำปรึกษาด้วยความเต็มใจ
อ้างอิงข้อมูล : bumrungrad