เท้าบวมกดแล้วบุ๋ม ระวังโรคร้ายมาเยือนไม่รู้ตัว
เขียนเมื่อวันที่ 27/07/2021
เท้าบวมกดแล้วบุ๋ม อันตรายไหม
อาการเท้าบวมหรือขาบวม การเจ็บป่วยที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไปซึ่งในบางครั้งอาการเหล่านี้ก็หายไปเอง สาเหตุทั่วไปมักเกิดจากการสะสมของของเหลวในบริเวณที่เกิดอาการบวมที่มากเกินไปเรียกว่าอาการบวมน้ำ นอกจากนี้อาจเกิดจากการยืนหรือนั่งท่าเดิมนานเกินไป ทานอาหารรสชาติเค็มจัด มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือเกิดการบวมขณะตั้งครรภ์เนื่องจากการรับประทานยาบางชนิด เป็นต้น นอกจากอาการเท้าบวมที่เกิดจากสาเหตุทั่วไปแล้ว ยังมีลักษณะอาการหรือสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกโรคหรือการเจ็บป่วยอื่น ๆ ได้เช่นกัน
เท้าบวม เกิดจากอะไร?
อาการเท้าบวมส่วนใหญ่เกิดขึ้นได้กับเท้าทั้งสองข้าง หรือเกิดบริเวณเท้าข้างใดข้างหนึ่ง และเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่จะมีความรุนแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการ พร้อมสัญญาณบ่งบอกโรคและปัญหาสุขภาพ ดังนี้
อาการเท้าบวม
โรคไต
มีลักษณะเท้าบวมหรือขาบวมทั้งสองข้าง เมื่อกดบริเวณเท้าจะมีรอยบุ๋มและกลับคืนสภาพเดิมได้ช้า ร่วมกับอาการหน้าบวม ตัวบวม รู้สึกเหนื่อยง่าย ปัสสาวะออกน้อย ซึ่งอาจเป็นลักษณะอาการของโรคไต
โรคหัวใจ
มีอาการขาบวมเนื่องจากในร่างกายมีปริมาณเกลือโซเดียมที่สูงพร้อมน้ำที่อยู่ในร่างกายจำนวนมาก และหัวใจบริเวณด้านขวามมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ส่งผลให้เลือดจากขาไม่สามารถไหลเวียนเข้าสู่หัวใจได้ อาจมีอาการร่วมกับการเหนื่อยหอบและนอนราบไม่ได้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโรคหัวใจบางชนิดรวมถึงโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเรื้อรังได้เช่นกัน
โรคหลอดเลือดดำอุดตันที่ขา
บริเวณขามีอาการบวมที่ข้างใดข้างหนึ่งร่วมกับอาการปวด รู้สึกหนักบริเวณขา เมื่อยล้า มีอาการขาชา เท้าชา เป็นตะคริวหรือร้อนวูบวาบ อาการเหล่านี้มักเกิดกับผู้ที่ต้องยืนนาน ๆ อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจเกิดเป็นโรคหลอดเลือดดำอุดตันที่ขา
โรคเท้าช้าง
เกิดจากยุงที่มีเชื้อพยาธิ Brugia Malayi และ Wuchereria Bancrofti ก่อให้เกิดโรคเท้าช้างกัดซ้ำหลายครั้ง จนทำให้เชื้อพยาธิเข้าไปอาศัยอยู่ในระบบน้ำเหลืองของมนุษย์ส่งผลให้เกิดอาการบวมโตของอวัยวะเช่น แขน ขา และอวัยวะสืบพันธุ์
โรคเบาหวาน
เท้าบวมที่เกิดจากการติดเชื้อของโรคเบาหวาน เนื่องจากการลุกลามของเชื้อไปยังบริเวณเส้นประสาทส่วนปลายช่วงเท้าทำให้เกิดแผล มีการลุกลามได้ง่ายจนเกิดอาการบวมและอักเสบ พร้อมอาการที่รุนแรงมากขึ้นหากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา
บาดเจ็บบริเวณเท้า
อาการบวมก็อาจมีสาเหตุเกิดจากอาการบาดเจ็บได้เช่นกัน เช่น ข้อเท้าแพลง อุบัติเหตุ สะดุดล้มทำให้เกิดอาการบวมบริเวณขาได้เช่นกัน เมื่อทำการหยุดพักการเคลื่อนไหวหรือหลีกเลี่ยงการเดินยังบริเวณเท้าข้างที่บาดเจ็บก็ทำให้อาการทุเลาและหายได้ แต่หากเกิดการเจ็บที่รุนแรงหรืออาการไม่ทุเลาควรรีบพบแพทย์
การรับประทานยาบางชนิด
การรับประทานยาบางชนิดทำให้เกิดอาการบวมได้ เช่น ยาความดันบางชนิด อาทิ สเตียรอยด์ ยาฮอร์โมนเอสโตรเจนโปรเจสเตอโรน แคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์รวมถึงยาที่ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิต ยาที่ใช้ในการรักษาภาวะซึมเศร้า เช่น ยานอร์ทริปไทลีน เป็นต้น
ภาวะตั้งครรภ์
เท้าบวมกดแล้วบุ๋ม สำหรับคนท้องเป็นอาการแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดอาการเท้าบวมหรือข้อเท้าบวม สำหรับอาการบวมแบบฉับพลันหรือมีอาการที่รุนแรง อาจมีสาเหตุจากภาวะครรภ์เป็นพิษ และหากมีอาการบวมร่วมกับการปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ การมองเห็นผิดปกติ ปัสสาวะบ่อยควรรีบพบแพทย์
อาการเท้าบวมถึงแม้จะเป็นอาการเล็กน้อยที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ แต่ผู้ที่มีอาการไม่ควรละเลยและหมั่นสังเกตตนเองอยู่เสมอ หากเกิดอาการเท้าบวมพร้อมสัญญาณเตือนโรคต่าง ๆ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดทันที นอกจากนี้ควรวางแผนดูแลสุขภาพด้วยการหมั่นตรวจสุขภาพประจำปีและเลือกทำประกันภัยสุขภาพเพื่อวางแผนค่าใช้จ่ายหากเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ให้อุ่นใจในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลกับความคุ้มครองประกันภัยสุขภาพวิริยะประกันภัยอุ่นใจรักษ์ โกลด์ มอบความคุ้มครองสูงสุด 5,000,000 บาท/ครั้ง* ค่าห้องสูงสุด 15,000 บาท/วัน* ค่ารักษา แพทย์ ผ่าตัด จ่ายตามจริง และเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลชั้นนำเครือ BDMS โดยไม่ต้องสำรองจ่าย กับค่าเบี้ยประกันเริ่มต้น 13,284 บาท/ปี ฮักส์ยินดีให้คำแนะนำการเลือกทำประกันภัย สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : โรงพยาบาลกรุงเทพฯ, nhs.uk