6 ที่เที่ยววันพ่อใกล้กรุงเทพ มอบความสุขแสนพิเศษ
เขียนเมื่อวันที่ 01/12/2021
วันพ่อแห่งชาติ 2564 กับทริปใกล้กรุงที่น่าจูงมือพ่อเที่ยว
ใกล้เวียนกลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับวันที่ 5 ธันวาคม หรือวันพ่อแห่งชาติไทย ช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวที่หลายคนถือโอกาสลางานหยุดยาวเพื่อพาคุณพ่อเที่ยวพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปพบเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ไปในที่ที่ยังไม่เคยไป หรืออาจเคยไปแล้วแต่ได้ไปอีกครั้งแบบพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว ใครที่ยังไม่รู้ว่าหยุดวันพ่อทั้งทีจะพาพ่อไปเที่ยวไหนดี วันนี้ HUGS Insurance ขอนำเสนอ 6 สถานที่เที่ยววันพ่อใกล้กรุงเทพฯ เหมาะพาคุณพ่อไปพักผ่อน ส่วนมีที่ไหนบ้างตามมาดูกันเลย
ปักหมุด 6 ที่เที่ยวใกล้กรุง ไปเช้าเย็นกลับหรือค้างคืนได้หมด
ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
บรรยากาศตลาดน้ำอัมพวายามเย็น
เริ่มต้นที่ตลาดน้ำใกล้กรุงเทพฯ ที่หลายคนคุ้นหูกันดีอย่าง "ตลาดน้ำอัมพวา" สถานที่เที่ยวริมน้ำที่พาคุณไปย้อนวันวานผ่านวิถีชีวิตริมคลองที่หาดูได้ยากมากในปัจจุบัน และนี่คือเสน่ห์ที่ทำให้ใครต่อใครต่างหลงรักอัมพวา โดยเฉพาะในช่วงเย็นวันศุกร์-อาทิตย์ ที่ตลาดน้ำอัมพวากลายเป็นแหล่งรวมอาหารอร่อย ๆ ผลไม้สด ตลอดจนขนมไทยโบราณที่หากินได้ยาก และบริเวณริมคลองยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านไอศกรีม ร้านขายของที่ระลึก ให้ได้เดินเที่ยวชมและเลือกใช้บริการอีกด้วย รวมถึงใครที่อยากทำบุญก็สามารถติดต่อเช่าเรือทำบุญไหว้พระได้เช่นกัน แล้วค่อยวนกลับมาทานอาหารที่ตลาดน้ำอีกครั้ง ก่อนปิดท้ายทริปวันพ่อกับกิจกรรมนั่งชมหิ่งห้อย
ทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี
เยี่ยมชมดอกทานตะวันชูช่อเหลืองอร่ามกลางไร่
ใครอยากพาคุณพ่อไปสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ขอแนะนำทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี นอกจากเป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แล้ว เดือนธันวาคมยังเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ดอกทานตะวันบานสะพรั่งพอดี ซึ่งตัวเลือกทุ่งดอกทานตะวันก็มีหลากหลายแห่ง เรียกว่าแค่วันเดียวคุณสามารถเก็บภาพครอบครัวท่ามกลางดอกทานตะวันสีเหลืองอร่ามได้นับร้อยรูปทีเดียว แถมบริเวณใกล้ ๆ กันยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอย่างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือบริเวณทุ่งหญ้าท้ายเขื่อนมุมลับ ๆ ที่กลายเป็นลานหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจรดกับสายน้ำ มองดูคล้ายทุ่งสะวันนาของแอฟริกา
สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
เมื่อเอ่ยถึงสังขละบุรี อำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี หลายคนนึกถึงสะพานมอญหรือสะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตที่หลายคนไม่พลาดมาเก็บภาพประทับใจ รวมถึงร่วมสัมผัสวิถีชีวิตเก่าแก่ของชาวบ้านที่นี่ ผ่านพิธีตักบาตรมอญทุกเช้าตรู่เวลาประมาณ 6.30 น. ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวต่างต่อแถวเนื่องแน่นเพื่อรอใส่บาตรพระสงฆ์ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงกันมีที่เที่ยวน่าสนใจ ทั้งการล่องเรือชมวัดใต้น้ำ แวะไหว้พระวัดวังก์วิเวการาม หรือไปเลือกซื้อของฝากที่ด่านเจดีย์สามองค์
เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เที่ยวชมธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
มาต่อกันที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก โดยสภาพอากาศของที่นี่เย็นสบายทั้งปีทำให้เหมาะพาครอบครัวมาพักผ่อน เพราะถึงเป็นหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว สภาพพื้นป่าของที่นี่ยังคงชุ่มฉ่ำให้ชีวิตชีวาแก่นักท่องเที่ยวไม่น้อยทีเดียว ถือว่าเขาใหญ่เป็นที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2564 ซึ่งน่าไปสัมผัสอากาศเย็นสบายที่ผาเดียวดาย กางเต็นท์นอนที่ลำตะคอง เดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือเดินไปชมน้ำตกเหวนรก
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ
พระปรางค์วัดอรุณตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
สำหรับใครที่อยากพาคุณพ่อไปไหว้พระริมน้ำแล้วล่ะก็ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารหรือวัดอรุณ ถือเป็นที่เที่ยววันพ่อในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว นอกจากได้ทำบุญไหว้พระแล้วคุณยังได้เยี่ยมชมความงดงามทางสถาปัตยกรรมอันประเมินค่าของงพระปรางค์วัดอรุณฯ สัญลักษณ์ความสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
ไหว้พระวัดดัง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
บ้านไหนที่เป็นสายบุญ การเดินทางไปทำบุญไหว้พระที่อยุธยาถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แถมเหมาะไปเที่ยวกับครอบครัว เพราะนอกจากทำบุญขอพรกันตามวัดต่าง ๆ ในบริเวณเมืองเก่าอยุธยา เช่น วัดไชยวัฒนาราม วัดพนัญเชิง วัดหน้าพระเมรุ วัดมหาธาตุ วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดพุทไธสวรรค์ หรือวัดใหญ่ชัยมงคล ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังบางปะอิน พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ ตลาดน้ำอโยธยาสวนสาธารณะพระราม และตลาดโก้งโค้ง เป็นต้น
เตรียมไว้ ก่อนขับรถพาพ่อออกทริป
ก่อนขับรถพาครอบครัวเที่ยววันพ่อไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ควรเตรียมตัวและรถให้พร้อมใช้งาน เพื่อให้ทริปของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าประทับใจ โดยมีเคล็ดลับดังนี้
(1) เผื่อเวลาในการเดินทาง
ขึ้นชื่อว่าวันหยุดยาว มีโอกาสสูงที่สภาพการจราจรคับคั่งไปด้วยเพื่อนร่วมทาง ฉะนั้นควรเผื่อเวลาไว้โดยประมาณ 1-2 ชั่วโมง และเลี่ยงเส้นทางหลักในช่วงเทศกาล เพื่อแก้ปัญหารถติดหรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน
(2) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ใครที่รู้ตัวว่าต้องทำหน้าที่ขับรถควรนอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่มก่อนเดินทางไกล รวมถึงงดดื่มแอลกอฮอลล์และเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย
(3) เช็คสภาพรถให้พร้อมเดินทาง
แน่นอนว่าการตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ห้ามละเลย เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทั้งของตัวคุณ ครอบครัว และเพื่อนร่วมทาง โดยอาจเช็คสภาพรถเบื้องต้นดังนี้
- ยางรถยนต์ : ก่อนเดินทางควรเติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐานกำหนด รวมถึงการเตรียมยางอะไหล่ให้พร้อมใช้งาน
- ระบบไฟ : การตรวจเช็คระบบไฟแบบง่าย ๆ คือการทดสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยวทั้งซ้ายและขวา ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน ไฟภายในห้องโดยสาร ไปจนถึงระบบไฟต่าง ๆ ภายในรถยนต์ว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่
- แบตเตอรี่รถยนต์ : ควรดูอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ว่าเกิน 2 ปีแล้วหรือไม่ หากเกินอาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เพื่อให้มั่นใจว่า รถของคุณจะสตาร์ทไม่ติดกลางทาง นอกจากนี้ให้ตรวจสอบน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย
- ที่ปัดน้ำฝน : ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ การคอยดูที่ปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอก็เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นลองเช็คดูว่ายางของใบปัดน้ำฝนอยู่ในสภาพที่ใช้งานหรือไม่ รวมถึงเติมน้ำฉีดกระจกอย่างสม่ำเสมอ
(4) ศึกษาแผนประกันภัยรถยนต์
ทุกวันนี้ไม่ได้มีเพียง พ.ร.บ.รถยนต์ หรือแผนประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน จนสร้างความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ แต่ยังมีประกันภัยอะไหล่รถยนต์ที่เข้ามาดูแลค่าใช้จ่ายที่คาดเดาไม่ได้จากความเสียหายของอะไหล่รถยนต์ที่เสียหาย หรือเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ทำให้คุณสามารถนำรถเข้าอู่หรือเข้าศูนย์บริการได้ทันทีโดยไม่ต้องผัดวันประกันพรุ่งแล้วกลายเป็นปัญหาบานปลายภายหลัง
(5) เตรียมเบอร์โทรฉุกเฉินที่จำเป็น
ขอให้สมาชิกในทริปคนใดคนหนึ่งบันทึกเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน เพื่อเสริมความมั่นใจยามต้องรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันในระหว่างการเดินทาง
สำหรับใครที่ยังลังเลว่าควรเลือกทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+ และประกันภัยอะไหล่รถยนต์ที่ไหนดี ฮักส์ยินดีให้คำแนะนำเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมกับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย ทั้งในส่วนเงินทุนประกัน ค่าเบี้ยประกัน รวมถึงการเปรียบเทียบแผนประกันภัยออนไลน์ สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือโทร 0 2975 5855