วิธีคำนวณเบี้ยประกันภัยรถยนต์ มีเงินสำรองจ่าย ไม่ติดขัด
เขียนเมื่อวันที่ 17/07/2021
คำนวณค่าเบี้ยประกันภัย ไม่ยากอย่างที่คิด
แม้การซื้อรถยนต์เป็นหนึ่งในความฝันของหลาย ๆ คน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางหลายต่อกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง แต่รู้หรือไม่ว่า การมีรถยนต์เป็นของตัวเองสักคันไม่ใช่แค่จ่ายเงินซื้อรถแล้วจบ ยังมีค่าใช้จ่ายมากมายที่พ่วงกับการมีรถ ทั้งค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าใช้จ่ายสำหรับการบำรุงรักษารถยนต์ ค่าต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ค่าประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รวมถึงค่าประกันภัยรถยนต์ที่คนมีรถหรือวางแผนซื้อรถควรรู้ และต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี ว่าสามารถรับผิดชอบได้ทั้งหมดหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการเงินในอนาคต
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีเซฟเงินในกระเป๋าหลังถอยรถป้ายแดงออกมาใช้งาน วันนี้เรามีวิธีการคำนวณค่าเบี้ยประกันภัย ที่ช่วยคุณลดภาระค่าใช้จ่ายจากค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์มาฝาก รับรองไม่ยุ่งยากซับซ้อน ตามมาดูเลย
ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ คืออะไร
เป็นค่าตอบแทนที่ผู้ทำประกันชำระให้แก่บริษัทประกันภัยรถยนต์ เพื่อตอบแทนบริษัทประกันซึ่งตกลงดูแลค่าซ่อมหรือชดเชยความเสียหายให้ผู้ทำประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือได้ความเสียหายจากภัยอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกัน ทำให้การจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ เปรียบเสมือนการซื้อความคุ้มครองในอนาคตที่ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อผู้ทำประกันได้รับความเสียหายจากภัยที่ประกันคุ้มครองนั่นเอง
วิธีคำนวณเบี้ยประกันภัยรถยนต์ เขาคิดกันยังไง
ในการคำนวณเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั้น พิจารณาจากตัวผู้ทำประกัน รวมถึงประเภทรถของผู้ทำประกัน ส่วนปัจจัยใดบ้างที่มีผลเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ตามไปดูเลย
พิจารณาจากรถผู้ทำประกัน
รุ่นรถยนต์
รุ่นรถยนต์ที่นำมาทำประกันภัยรถยนต์มีผลต่อราคาเบี้ยประกันไม่น้อย เพราะถ้าเป็นรุ่นรถที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะ ต้องเสียค่าเบี้ยประกันที่แพงกว่ารถยนต์อีโค คาร์ ที่จำหน่ายอยู่ในเมืองไทยแน่นอน
เครื่องยนต์
รถที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ มีค่าเบี้ยประกันสูงกว่ารถที่เครื่องยนต์เล็ก ๆ
ปีที่ผลิต
เบี้ยประกันภัยรถยนต์จะถูกลง เมื่อรถที่นำมาทำประกันภัยเป็นรถเก่า แต่ทั้งนี้ควรเช็คข้อมูลให้ดีว่า บริษัทประกันที่สนใจรับทำประกันให้รถเก่าที่มีอายุกี่ปี
ติดกล้องติดรถยนต์
เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ( คปภ.) มองเห็นความสำคัญกล้องติดรถยนต์ว่า สามารถใช้บันทึกหลักฐานการเกิดเหตุต่าง ๆ เพื่อระบุตัวผู้กระทำผิดได้ จึงมีคำสั่งนายทะเบียน ที่ 8/2560 ให้บริษัทประกันทำการลดราคาเบี้ยประกันลง สำหรับรถที่มีกล้องติดรถยนต์ (CCTV) ที่อัตรา 5-10 % ของราคาเบี้ยประกันภัยสุทธิ
การติดกล้องในรถยนต์ สามารถนำมาใช้สิทธิ์ลดค่าเบี้ยประกันภัยได้
พิจารณาจากตัวผู้ทำประกัน
ระบุชื่อคนขับ
หลายคนอาจไม่รู้ว่า การเลือกระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่มีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกันภัยไม่น้อยทีเดียว หากอยากรับส่วนลดเบี้ยประกันภัยแนะนำให้ระบุคนขับหรือชื่อผู้ขับขี่เวลาทำประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากปัจจุบันมีการกำหนดเกณฑ์ความเสี่ยงและได้รับส่วนลดตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ ดังนี้
- อายุ 18-24 ปี ได้รับส่วนลด 5%
- อายุ 25-35 ปี ได้รับส่วนลดเบี้ย 10%
- อายุ 36-50 ปี ได้รับส่วนลดเบี้ย 15%
- อายุ 50 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลดเบี้ย 20%
อายุของผู้ทำประกัน
เบี้ยประกันภัยรถยนต์แปรผกผันตามอายุของผู้ทำประกัน ยิ่งอายุน้อย ยิ่งต้องจ่ายเบี้ยประกันสูง เนื่องจากบริษัทประกันภัยมองว่า ผู้ทำประกันที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นมีความเสี่ยงสูง และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่าผู้ทำประกันที่มีอายุ เพราะบริษัทฯ มองว่ามีประสบการณ์ขับขี่มากกว่า ส่งผลให้เบี้ยประกันลดลง
สถานะสภาพโสดหรือสมรส
บริษัทประกันมีแนวคิดว่า ผู้ทำประกันที่มีครอบครัวแล้ว มีความเสี่ยงต่ำกว่าผู้ที่ยังไม่มีครอบครัว นั่นเพราะผู้ทำประกันมีความระมัดระวังในการขับขี่มากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว ส่งผลให้เบี้ยประกันสำหรับคนที่มีครอบครัวมีอัตราถูกลง
ประวัติการเคลมและประวัติทางคดี
บริษัทประกันหลายแห่งนำประวัติการซ่อมและประวัติทางคดีมาพิจารณาควบคู่ในการประเมินราคาเบี้ยประกัน ถ้าไม่มีประวัติการซ่อมหรือประวัติเคลมประกัน ราคาประกันภัยรถยนต์ย่อมถูกลงกว่าผู้ที่มีประวัติการเคลมบ่อย ๆ
ที่สำคัญผู้ทำประกันที่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือเคลมบ่อยนอกจากไม่รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ยังอาจถูกเพิ่มเบี้ยประกันภัยแทนด้วย
พิจารณาจากที่พักอาศัย
ที่อยู่อาศัยของผู้ทำประกันสามารถนำมาวิเคราะห์หาความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ อาทิ พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น และเป็นพิกัดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อย ๆ อาจทำให้ราคาเบี้ยประกันถูกปรับสูงขึ้นตามความเสี่ยงดังกล่าว
จะเห็นได้ว่าเงื่อนไขและวิธีคำนวณเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไม่ได้ยุ่งยาก ด้วยเกณฑ์พิจารณาเบี้ยประกันอ้างอิงพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ทำประกันควบคู่กับปัจจัยอื่น ๆ อย่างอายุผู้ทำประกัน รุ่นของรถยนต์ หรือขนาดเครื่องยนต์ เป็นต้น ทำให้เราก็สามารถประมาณเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ต้องจ่ายเองได้ เพื่อรีบเตรียมเงินส่วนนี้ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ รับรองว่าจะไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์หมุนเงินไม่ทันแน่นอน
สำหรับใครที่อยากเปรียบเทียบแผนประกันความคุ้มครอง และเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยรถยนต์ ฮักส์ยินดีเป็นที่ปรึกษาและเพื่อนคู่คิด คอยตอบทุกคำถามเรื่องประกันภัย เพื่อให้คุณได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณมากที่สุด สอบถามข้อมูลกับฮักส์ได้ที่ 0 2975 5855 หรือเพิ่มเพื่อนในช่องทาง Line
อ้างอิงข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)