loading
อุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้น เสี่ยงเลือดคั่งในสมอง

อุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้น เสี่ยงเลือดคั่งในสมอง

เขียนเมื่อวันที่ 18/08/2021

ภาวะเลือดคั่งในสมองอันตรายกว่าที่คิด

อุบัติเหตุเรื่องใกล้ตัวที่เกิดโดยไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งอุบัติเหตุที่ส่งผลให้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เกิดการบาดเจ็บรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต ถึงแม้ในบางครั้งการเกิดอุบติเหตุหกล้มอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากล้มศีรษะกระแทกพื้นมีความเสี่ยงเกิดเลือดคั่งในสมอง

เลือดคั่งในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) คือการที่เลือดพุ่งเข้าสู่เนื้อเยื่อสมองอย่างกะทันหัน ทำให้สมองได้รับความเสียหาย อาการมักจะปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน เช่น ปวดศีรษะ รู้สึกอ่อนแรง สับสน และเป็นอัมพาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย การสะสมของเลือดที่คั่งภายในสมองยิ่งทำให้เกิดแรงกดทับต่อสมอง และขัดขวางออกซิเจนสำหรับนำไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองและเส้นประสาทถูกทำลายได้อย่างรวดเร็ว อาจเป็นผลให้เกิดอาการป่วยรุนแรง เป็นอัมพาตหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต 

สาเหตุของการเกิดเลือดคั่งในสมองคืออะไร?

เลือดคั่งในสมองสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ 

  • เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือสมองได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง 
  • ความดันโลหิตสูงต่อเนื่อง 
  • หลอดเลือดในสมองก่อตัวขึ้นอย่างผิดปกติ
  • เส้นเลือดโป่งพองในสมองแตก 
  • ความผิดปกติของหลอดเลือดแดงบริเวณสมอง
  • ภาวะผิดปกติในสมอง เช่น การพบเนื้องอกเบียดบริเวณสมอง
  • ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • การใช้โคเคนหรือยาบ้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรงและนำไปสู่การตกเลือด
  • เลือดออกผิดปกติ เช่น ฮีโมฟีเลียหรือโรคโลหิตจาง

อาการเลือดคั่งในสมอง 

เมื่อมีความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดเลือดคั่งในสมอง จะแสดงอาการทางร่างกายที่สามารถสังเกตได้และจะเริ่มมีอาการรุนแรงขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดเลือดคั่งและเนื้อเยื้อที่ได้รับความเสียหาย ดังนี้ 

  • ร่างกายอ่อนแรงกะทันหัน รวมถึงเป็นอัมพาตที่ใบหน้า แขน หรือขา โดยอาจเกิดขึ้นเพียงซีกเดียวของร่างกาย
  • มีอาการปวดหัวรุนแรงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
  • กลืนอาหารลำบาก
  • ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นในตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
  • สูญเสียการทรงตัวและการประสาทสัมผัส 
  • ปัญหาด้านทักษะทางภาษา เช่น ทักษะการอ่าน การเขียน การพูด การทำความเข้าใจ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีอาการง่วงนอน เซื่องซึม หรือหน้ามืดหมดสติ 
  • มีอาการสับสน เพ้อ
  • แขนขาอ่อนแรง ร่างกายสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว
  • มีอาการชัก

เลือดคั่งในสมอง

อาการเลือดคั่งในสมอง

วินิจฉัยเลือดคั่งในสมองทำวิธีไหนได้บ้าง? 

หากมีอาการข้างต้นที่กล่าวมาควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอาการ และตรวจระบบประสาท เพราะอาจเกี่ยวข้องกับภาวะเลือดคั่งในสมอง โรคหลอดเลือดสมองตีบ หรือหลอดเลือดสมองมีเลือดออก สามารถวินิจฉัยได้ดังนี้ 

CT Scan

การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะทำให้เห็นภาพสมองอย่างชัดเจน สามารถยืนยันการมีเลือดออกภาวะผิดปกติ และประเมินหาหลักฐานอื่นๆ ของการบาดเจ็บที่ศีรษะของผู้ป่วย 

MRI Scan

การตรวจโดยใช้คลื่นวิทยุและคลื่นสนามแม่เหล็ก วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์มองเห็นบริเวณสมองชัดเจนขึ้น เพื่อระบุสาเหตุของการเกิดเลือดคั่งได้ดีขึ้น รวมถึงความเสียหายอื่น ๆ 

Angiogram 

การใช้เทคโนโลยี X-ray เพื่อถ่ายภาพการไหลเวียนของเลือดภายในหลอดเลือดแดง และสามารถเช็คความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหลอดเลือดได้ เช่น หลอดเลือดโป่งพองหรือความผิดปกติของหลอดเลือดแดง เป็นต้น 

การตรวจเลือด

วิธีนี้สามารถระบุความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การอักเสบ และปัญหาการแข็งตัวของเลือดที่อาจทำให้เลือดออกในสมองได้

ภาวะแทรกซ้อนของการเกิดเลือดคั่งในสมอง 

นอกจากภาวะเลือดคั่งในสมองอีกสิ่งที่พึงระวังคือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นตามมา ซึ่งสามารถเกิดได้หลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับสภาวะความรุนแรงของผู้ป่วย ดังนี้

  • ทักษะทางภาษาบกพร่อง
  • เกิดความเหนื่อยล้าได้ง่าย
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน
  • สูญเสียการมองเห็น
  • มีปัญหากับความรู้สึกหรือการเคลื่อนไหวที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
  • เกิดโรคปอดบวมแทรกซ้อน
  • เกิดความผิดปกติของความรู้ความเข้าใจ การสูญเสียความจำ ความคิดการไตร่ตรอง และความสับสน
  • เกิดภาวะบวมที่สมอง
  • มีภาวะซึมเศร้า หรือมีปัญหาทางอารมณ์

ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตหากมีภาวะแทรกซ้อนและผู้ป่วยมีเลือดคั่งในสมองปริมาณมาก 

เลือดคั่งในสมองนอกจากสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนศีรษะแล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุที่อาจเป็นปัจจัยก่อให้เกิดภาวะเลือดคั่งในสมอง หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว การมีประกันอุบัติเหตุไว้ก็เป็นอีกทางที่ช่วยให้เพื่อน ๆ เข้ารับการตรวจและรักษาได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาท/เดือน แต่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาถึง 30,000 บาท/ครั้ง ไม่ว่าจะทำ CT หรือ MRT Sacn ก็คุ้มครองครอบคลุม 

 

นอกจากนี้ควรหันมาเริ่มต้นดูแลสุขภาพและร่างกายให้มีความแข็งแรงห่างไกลโรค พร้อมวางแผนดูแลสุขภาพด้วยการเลือกตรวจสุขภาพประจำปีและเลือกทำประกันภัยสุขภาพ เพื่อครอบคลุมในส่วนของค่าใช้จ่ายหากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินด้วยโรคภัยต่าง ๆ รวมถึงโรคร้ายแรง ฮักส์มีแผนกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล หากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน กับความคุ้มครองวิริยะประกันภัย อุ่นใจรัก โกลด์ มอบความคุ้มครองสูงสุด 5,000,000 บาท/ครั้ง* ค่าห้องสูงสุด 15,000 บาท/วัน* ค่ารักษา แพทย์ ผ่าตัด จ่ายตามจริง และเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลชั้นนำเครือ BDMS โดยไม่ต้องสำรองจ่าย กับค่าเบี้ยประกันเริ่มต้น 13,284 บาท/ปี ฮักส์ยินดีให้คำแนะนำการเลือกทำประกันภัยให้ตอบโจทย์และเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855

อ้างอิงข้อมูล : healthline, pobpad


#HUGS

#LifeALife

#LifeIsAllRight

#ฮักส์เคียงข้างทุกไลฟ์สไตล์

#ง่ายทุกการใช้ชีวิต

#ฮักส์จริงใจใส่ใจดูแลคุณ

#หมดห่วงเรื่องสุขภาพให้ฮักส์ดูแลคุณ

#ประกันอุบัติเหตุ

#ฮักส์ประกันภัยอุบัติเหตุ

ช่องทางเป็นเพื่อนกับฮักส์

Facebook : HUGS Insurance
Line : HUGS Insurance

scroll top
ติดตาม "HUGS"
ช่องทางชำระเงิน
  • ชําระเงินผ่านบัตร visa, visa payment
  • ชําระเงินผ่านบัตร mastercard, mastercard payment
  • ชําระเงินผ่านบัตร jcb, jcb payment
  • ชําระเงินผ่าน unionpay, unionpay payment
  • ชําระเงินผ่าน discover, discover payment
  • ชําระเงินผ่าน american express, american express payment
  • ชําระเงินผ่าน diners club, diners club payment
ใบรับรอง/ใบอนุญาต
  • ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย, oic certificate
  • ประมวลผลบนระบบคลาวด์, aws, amazon-web-services รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ https, ssl certificate https
  • tiba
+