กฎหมายขับรถเร็วเกินกำหนด 2565 ระวังใบสั่งส่งตรงถึงบ้าน
เขียนเมื่อวันที่ 18/08/2021
ความเร็วรถตามกฎหมายกำหนด 2565 เร็วแค่ไหนถึงไม่โดนใบสั่ง
แม้ผู้ขับรถหลายคนคิดว่าการขับรถให้เร็วช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายปลายทางเร็วขึ้น แต่บางครั้งเวลาอันน้อยนิดที่เพิ่มขึ้นมาก็ไม่คุ้ม เพราะอาจแลกมาด้วยการโดนใบสั่งจราจรข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และเพื่อไม่โดนใบสั่งแบบไม่รู้ตัว ตามมาดูกันว่าการขับรถบนถนนในเมือง หรือเส้นทางหลวงมีข้อกำหนดอย่างไร รถแต่ละประเภทต้องใช้ความเร็วเท่าไหร่ รวมถึงเส้นทางที่สามารถเหยียบทำความเร็วได้
ขับรถต้องรู้ กำหนดความเร็วรถใหม่ วิ่งได้สูงสุดเท่าไหร่
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศ กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะ บนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทที่กำหนด โดยมีข้อกำหนดความเร็วรถใหม่ ดังนี้
(1) กำหนดให้ความเร็วขั้นสูงสำหรับการขับรถในทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ที่มีทางเดินรถที่จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน ให้ขับรถแต่ละประเภทในทางเดินรถโดยใช้ความเร็วไม่เกิน ดังนี้
1.1 รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม รถบรรทุกคนโดยสารที่บรรทุกคนโดยสาร เกิน 15 คน ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
1.2 รถในขณะที่ลากจูงรถอื่น รถยนต์สี่ล้อเล็ก หรือรถยนต์สามล้อ ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
1.3 รถจักรยานยนต์ทั่วไป ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
1.4 รถจักรยานยนต์ (บิ๊กไบค์) ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
1.5 รถโรงเรียน หรือรถรับส่งนักเรียน ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
1.6 รถบรรทุกคนโดยสาร เกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
1.7 รถยนต์อื่นให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
1.8 รถแทรกเตอร์ รถบดถนน รถใช้งานเกษตรกรรม ใช้ความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
(2) กำหนดความเร็วขั้นต่ำสำหรับการขับรถในช่องเดินรถช่องทางขวาสุดของทางเดินรถในทางหลวง ซึ่งจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไป โดยให้รถยนต์ที่ขับในช่องทางเดินรถช่องขวาสุด ใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และเมื่อพิจารณาสาระสำคัญในกฎกระทรวงข้างต้น สามารถสรุปได้ว่า
- รถยนต์สามารถใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- กรณีวิ่งเลนขวา ห้ามต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- บิ๊กไบค์ ให้ใช้ความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
กฎหมายความเร็วใหม่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เริ่มใช้เมื่อไหร่
สำหรับกฎหมายความเร็ว 2564 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป เฉพาะในเส้นทางที่มีทางเดินรถแบบจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่อง มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน อีกทั้งต้องรอให้ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงแต่ละพื้นที่เป็นผู้ออกประกาศเรื่องพื้นที่ และระยะเวลาที่จะเริ่มบังคับใช้ เท่ากับว่าความเร็วใหม่นี้ยังไม่สามารถใช้บนถนนทุกสายนั่นเอง
เส้นทางที่ใช้ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เส้นทางใหม่ใช้ความเร็วได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีเส้นทางไหนบ้าง
เบื้องต้นได้กำหนดให้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ช่วงบางปะอิน-พยุหคีรี (ช่วงอยุธยา-อ่างทอง) ระหว่าง กม.4+100 ถึง กม. 50+000 เป็นเส้นทางที่ใช้ความเร็วได้ตามกฎกระทรวง
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทพิจารณาเส้นทางเพิ่มเติม พร้อมกำชับให้เร่งปรับปรุงเครื่องหมายจราจร ปรับปรุงสีบนพื้นผิวจราจร ติดตั้งป้ายจราจรและป้ายเปลี่ยนข้อความ เพื่อสื่อสารการใช้ความเร็วที่เหมาะสมในแต่ละช่องจราจร รวมทั้งติดตั้งแถบเตือน Rumble Strips เพื่อแจ้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการเข้าเขตควบคุมความเร็วให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2564 และพร้อมเปิดให้วิ่งปี 2566 โดยเส้นทางทำความเร็วระยะที่ 2 ประกอบด้วย
เส้นทางที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (เดือนสิงหาคม 2564)
(1) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ช่วงบ่อทอง-มอจะบก จังหวัดนครราชสีมา ระยะทาง 13.5 กิโลเมตร
(2) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ช่วงสนามกีฬาธูปะเตมีย์-ต่างระดับคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ระยะทาง10.0 กิโลเมตร
(3) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ช่วงคลองหลวงแพ่ง จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยะทาง 11.0 กิโลเมตร
(4) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 ช่วงบางนา- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง 15.0 กิโลเมตร
(5) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ช่วงทางน้ำหนองแขม-บ้านหว้า-วังไผ่ จังหวัดนครสวรค์ ระยะทาง 25.72 กิโลเมตร
(6) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ช่วงอ่างทอง-ไชโย-สิงห์ใต้-สิงห์เหนือ-โพนางดำออก จังหวัดอ่างทอง-สิงห์บุรี ระยะทาง 63.0 กิโลเมตร
เส้นทางที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท (เปิดให้วิ่งปี 2565)
(1) ถนนราชพฤกษ์ (นบ.3021) จังหวัดนนทบุรี ระยะทาง 25.2 กิโลเมตร
(2) ถนนนครอินทร์ (นบ.1020) จังหวัดนนทบุรี ระยะทาง 12.4 กิโลเมตร
(3) ถนนชัยพฤกษ์ (นบ.3030) จังหวัดนนทบุรี ระยะทาง 11.18 กิโลเมตร
(4) ถนนข้าวหลาม (ชบ.1073) จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 4.98 กิโลเมตร
(5) ถนนบูรพาพัฒน์ บ้านฉาง (รย.1035) จังหวัดระยอง ระยะทาง 7.41 กิโลเมตร
(6) ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี (ชม.3029) จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 26.10 กิโลเมตร
อัตราโทษปรับ หากขับรถเร็วเกินกำหนด
หากขับรถเร็วเกินกำหนดในกฎกระทรวง จะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
แม้ปัจจุบันกฎหมายเปิดช่องทางให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบทได้ แต่อย่าลืมว่าการขับรถเร็วเกินกำหนดเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของอุบัติเหตุทางรถยนต์ ฉะนั้นผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎการจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงหยุดพักรถเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าระหว่างขับรถ ส่วนใครที่กำลังออกรถใหม่ป้ายแดง รถมือสอง หรือต้องการต่อประกันภัยรถยนต์ สามารถเช็คค่าเบี้ยพร้อมแผนความคุ้มครองทั้งประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 2, ชั้น 3+ รวมทั้งมีประกันตามไมล์ จ่ายค่าเบี้ยเท่าที่ขับ เบี้ยเริ่มที่ 4,900 บาท/ปี ได้ง่ายภายใน 1 นาที กับ Hugs Insurance กูรูประกันภัยออนไลน์ที่รวบรวมบริษัทประกันชั้นนำให้เลือกมากมาย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : ราชกิจจานุเบกษา, สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์