มะเร็งปากมดลูก ภัยร้ายที่ผู้หญิงต้องระวัง
เขียนเมื่อวันที่ 19/07/2021
ข้อควรรู้! สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร
ถ้าพูดถึงโรคร้ายที่ผู้หญิงต้องระวัง มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยหลายคนเป็นลำดับต้น ๆ มักพบตั้งแต่อายุ 30-80 ปี และพบมากในช่วงอายุ 35-50 ปี สำหรับสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) จากการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการมีคู่นอนหลายคน การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือการสูบบุหรี่ และมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเชื้อ HPV จะอยู่ในร่างกายประมาณ 10-15 ปี จะแสดงอาการเมื่อมีอายุ 30-60 ปี สำหรับระยะของโรคมะเร็งปากมดลูก มีดังนี้
ระยะของโรคมะเร็งปากมดลูก
ระยะที่ 0 : เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งยังไม่กระจายตัวและอยู่บริเวณผิวส่วนบนของปากมดลูก
ระยะที่ 1 : เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งอยู่บริเวณปากมดลูกและเริ่มลุกลาม
ระยะที่ 2 : เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งลุกลามเข้าไปในช่องคลอดแต่ยังไม่ถึง 1/3 ของช่องคลอด รวมถึงมีการลุกลามเข้าไปที่เนื้อเยื่อข้างปากมดลูกแต่ยังไม่ถึงบริเวณผนังเชิงกราน
ระยะที่ 3 : เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งลุกลาม 1/3 บริเวณส่วนล่างช่องคลอด หรือมีการลุกลามไปที่กระดูกเชิงกราน รวมถึงไปกดทับท่อไตทำให้ระบบปัสสาวะอุดตัน
ระยะที่ 4 : เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งลามออกจากอวัยวะเพศ หรือลุกลามไปที่กระดูกเชิงกรานผ่านเข้าไปในลำไส้ตรง ลามไปที่กระเพาะปัสสาวะ และลามไปที่บริเวณอื่นในร่างกาย
ประจำเดือนมาไม่ปกติ
7 สัญญาณอันตราย! เสี่ยงเป็นมะเร็งปากหมดลูก
สำหรับผู้หญิงที่รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย หรือมีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบพบแพทย์เป็นการด่วน เพราะหากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกจะได้ทำการรักษาทันท่วงที
- มีเลือดออกที่บริเวณช่องคลอดเพียงเล็กน้อยหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างมีประจำเดือน
- ประจำเดือนมามากหรือมานานกว่าปกติ
- มีอาการเบื่ออาหารหรือน้ำหนักลดลง
- มีของเหลวหรือตกขาวออกมาจากช่องคลอดทั้งที่เป็นน้ำและแบบข้น รวมถึงเป็นมูก เป็นหนอง มีเลือดและมีเศษเนื้อปนออกมาทั้งมีกลิ่นและไม่มีกลิ่น
- มีอาการปัสสาวะถ่ายเป็นเลือด
- มีอาการปวดหน่วงที่ท้องน้อย ปัสสาวะหรือถ่ายลำบาก ในกรณีที่กดเบียดท่อไตทำให้ไตทำงานผิดปกติ ก็ส่งผลให้เกิดไตวาย
- มีอาการขาบวมเนื่องจากมะเร็งปากมดลูกลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งปากมดลูกสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็งด้วยวิธีการตรวจคัดกรองแปปสเมียร์ (Pap smear) หรือการตรวจภายใน ซึ่งหากตรวจพบว่าเป็นระยะแรกการรักษาจะได้ผลดีมากกว่าเป็นในระยะลุกลาม
สำหรับการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจภายในมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
- ก่อนเข้ารับการตรวจภายในควรทำความสะอาดบริเวณช่องคลอดด้วยสบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว ล้างแค่บริเวณภายนอกไม่ต้องสวนล้างเข้าไปถึงข้างใน
- ไม่ควรไปตรวจช่วงที่มีประจำเดือนเพราะทำให้มดลูกเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
- งดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนเข้ารับการตรวจภายในประมาณ 48 ชั่วโมง
- ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดก่อนเข้ารับการตรวจภายใน เพราะทำให้โรคถูกชำระล้างออกไปด้วย อีกทั้งเสี่ยงติดเชื้อและทำลายแบคทีเรียชนิดที่ดีออกไป
- เนื่องจากบางโรคจำเป็นต้องวินิจฉัยลักษณะของขนที่บริเวณอวัยวะเพศ เพราะฉะนั้นไม่ควรโกนขนก่อนเข้ารับการตรวจภายใน
- ควรสวมใส่กระโปรงหรือกางเกงที่สามารถถอดออกได้ง่าย
เพื่อป้องกันความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ทุกช่วงวัยควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ส่วนผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ควรเข้ารับการตรวจเมื่อมีอายุ 21 ปีขึ้นไป นอกจากนี้การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ก็มีส่วนช่วยลดอัตราความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ 70-90% รวมถึงการหมั่นตรวจสุขภาพก็เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคร้าย หรือหากตรวจพบจะได้รักษาโรคมะเร็งทันก่อนเป็นระยะลุกลาม
ฮักส์มีประกันภัยสุขภาพที่มาพร้อมความคุ้มครองโรคมะเร็งปากมดลูกหากเป็นหลังทำประกันภัย เบี้ยเริ่มต้นเพียง 2,160 บาท / ปี* สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855 เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำแผนประกันภัยสุขภาพที่เหมาะสมสำหรับคุณ
อ้างอิงข้อมูล : phyathai, thaihealth