โรคมะเร็งในวัยรุ่น รักษาไม่ทัน อันตรายถึงชีวิต
เขียนเมื่อวันที่ 11/08/2021
โรคมะเร็งในวัยรุ่นที่ต้องระวัง รีบรักษาก่อนลุกลาม
มะเร็งยังคงเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยในลำดับต้น ๆ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นโรคร้ายที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงเด็กวัยรุ่นด้วยเช่นกัน โดยมักเกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมตั้งแต่ต้น ส่งผลให้เด็กเป็นมะเร็งหลายชนิดมากกว่าผู้ใหญ่ โรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในกลุ่มวัยรุ่นคือ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา หากไม่รีบทำการรักษาตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก และปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนถึงระยะสุดท้าย จะทำให้ยากต่อการรักษา มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง
โรคมะเร็งในวัยรุ่นที่ต้องระวัง
โรคมะเร็งในเด็กวัยรุ่นที่ต้องระวัง
การตรวจสุขภาพเป็นประจำถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เด็กวัยรุ่นไม่ควรละเลย เพราะบางครั้งโรคภัยไข้เจ็บมักไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าและเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย ยิ่งโรคมะเร็งที่มีสถิติผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแทบทุกปีด้วยแล้ว หนำซ้ำยังสามารถเกิดได้ในเด็กวัยรุ่นไม่เฉพาะแค่คนอายุมากเท่านั้น ก็ยิ่งควรใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไร้โรคภัยร้ายแรงมาเยือน สำหรับโรคมะเร็งที่เกิดได้ในวัยรุ่นมีดังนี้
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
สาเหตุของการเกิดโรคยังไม่ระบุแน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคคือ วัตถุทางเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็งอย่างยาย้อมผม ภูมิคุ้มกันลดลงอันเนื่องมาจากป่วยเป็นโรคร้ายแรง หรือเกิดจากการปลูกถ่ายอวัยวะ รวมถึงเกิดจากพันธุกรรมทางครอบครัว และการติดเชื้อไวรัส HIV อาการที่บ่งชี้ว่าป่วยเป็นโรคนี้คือต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น ส่วนมากจะเกิดที่ลำคอ รักแร้ หรือข้อพับ สามารถแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 : มักพบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณลำคอตำแหน่งเดียว หรือที่รักแร้ทางด้านขวา
ระยะที่ 2 : พบมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 2 ตำแหน่งที่ด้านเดียวกันของกระบังลม อาทิ คอทั้งด้านซ้ายและขวา หรือคอและรักแร้ด้านซ้าย
ระยะที่ 3 : พบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณส่วนบนและล่างของกระบังลม อาทิ ต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณรักแร้และขาหนีบ
ระยะที่ 4 : เป็นระยะที่แพร่กระจายออกนอกระบบน้ำเหลือง มักเกิดที่ไขกระดูก หรือเนื้อเยื่อส่วนอื่น อาทิ ปอด สมอง และตับ
เพื่อป้องกันตัวเองจากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาทิ ไข่ดาว และเนื้อสัตว์ รวมถึงหมั่นออกกำลังกายสร้างภูมิคุ้มกันให้มีความแข็งแรง
โรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา
เป็นโรคมะเร็งผิวหนังที่พบได้น้อยแต่มีความรุนแรงอย่างมาก อาการเบื้องต้นที่สังเกตได้คือมีจุดคล้ายไฝขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วบนผิวหนัง สามารถรักษาหายได้หากตรวจพบในระยะเริ่มแรก แต่หากเป็นระยะสุดท้ายมะเร็งจะแพร่กระจายไปส่วนอื่น จึงทำให้ยากต่อการรักษา สามารถแบ่งออกได้ 5 ชนิด ดังนี้
1. ชนิดแผลตื้น
มักพบในผู้ป่วยที่มีผิวขาวและตกกระ โดยมะเร็งจะแพร่กระจายที่บริเวณผิวหนังชั้นนอกทำให้ไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่หากมะเร็งกระจายลงไปลึกที่บริเวณชั้นผิวหนังส่วนอื่น อาจทำให้เกิดการลามไปที่อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้
2. ชนิดตุ่มนูน
มีตุ่มนูนสีแดงหรือสีดำบนผิวหนังแล้วมีของเหลวซึมออกมา ส่วนมากมักเกิดที่คอ หลัง หรือหน้าอก ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือเป็นชนิดที่มีการเติบโตเร็ว ทำให้แพร่กระจายไปในผิวหนังชั้นที่อยู่ลึกได้
3. ชนิดเลนทิโก มาลิกนา
มักเกิดบนผิวหนังบริเวณที่โดนแสงบ่อย อาทิ ใบหน้า ระยะเริ่มแรกจะมีจุดคล้ายกระแล้วขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นกระจายสู่ผิวหนังชั้นที่ลึกลงไป ทำให้เกิดตุ้มนูนตามมา
4. ชนิดเกิดที่มือและเท้า
มีเนื้องอกหรือปื้นสีน้ำตาลคล้ายกระที่บริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า มักพบในผู้ป่วยผิวคล้ำ รวมถึงอาจพบได้ที่บริเวณรอบเล็บของนิ้วหัวแม่มือและนิ้วหัวแม่เท้า
5. ชนิดไม่สร้างเม็ดสี
มีอาการที่เด่นชัดคือผิวหนังที่เป็นมะเร็งจะมีสีชมพู รวมถึงมีขอบแผลสีน้ำตาลหรือสีเทาเกิดขึ้นทั่วทั้งร่างกาย
มะเร็งไม่เลือกเพศหรืออายุ เพราะฉะนั้นทุกคนล้วนมีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคร้ายได้ทั้งนั้นหากไม่ดูแลสุขภาพ อีกทั้งการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน เพราะหากพบในระยะเริ่มแรกจะมีโอกาสรักษาหายมากกว่าระยะสุดท้าย และอย่างที่ทราบกันดีว่าโรคมะเร็งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง ดังนั้นการทำประกันภัยมะเร็งเพื่อคุ้มครองยามเจ็บป่วยในอนาคต จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างมาก ฮักส์มีประกันภัยมะเร็งที่ให้ความคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม เบี้ยเริ่มต้นเพียง 625 บาท พร้อมรับเงินก้อนเมื่อตรวจพบ 100,000 บาท (ยกเว้นโรคมะเร็งผิวหนังจะได้รับ 20,000 บาทเป็นส่วนหนึ่งของเงินก้อนทั้งหมด) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855 พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับประกันภัยที่คุณสนใจ