คุณแม่มือใหม่ต้องรู้ เงื่อนไขเงินชดเชยรายได้คลอดบุตร
เขียนเมื่อวันที่ 21/09/2021
เงินชดเชยรายได้คลอดบุตร สิทธิประโยชน์ที่คุณแม่ควรรู้
ประกันสังคม ถือเป็นสวัสดิการที่ทางภาครัฐมอบให้แก่ลูกจ้างและนายจ้าง ที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมตามอัตราต่าง ๆ ตามกฎหมายกำหนด ถือเป็นการสร้างหลักประกันในการดำเนินชีวิตของกลุ่มผู้ที่มีรายได้และจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมในการรับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ โดยนายจ้างและลูกจ้างต้องส่งเงินสมทบทุนเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน หักจากฐานเงินเดือนลูกจ้างอยู่ที่ 5% แต่ต้องไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน จะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ ว่างงาน กรณีเสียชีวิต เงินชดเชยรายได้ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติมตามที่ประกันสังคมกำหนด
สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่กำลังตั้งครรภ์และมีสิทธิประกันสังคมเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และ ผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถรับสิทธิประโยชน์ในกรณีคลอดบุตรจากประกันสังคมได้ แต่ต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
- เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ ผู้ประกันตนตามมาตรา 39
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร
- กรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ให้ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
สิทธิประโยชน์เงินคลอดบุตรได้เท่าไหร่
สิทธิประโยชน์เงินคลอดบุตร
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ประกันสังคมจะมอบให้ในกรณีคลอดบุตรสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ มีดังนี้
- ค่าคลอดบุตรประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายกรณีคลอดบุตรให้แก่ผู้ประกันตน ในอัตรา 15,000 บาท ต่อการคลอดบุตรหนึ่งครั้ง (จากเดิม 13,000 บาท) รวมค่าใช้จ่ายทั้งค่าทำคลอด ค่ายา ค่าห้อง ค่ารถพยาบาล หรือค่าบริการอื่น ๆ (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
- สำหรับผู้ประกันตนหญิงมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร เหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง เฉลี่ยระยะเวลา 90 วัน และสำหรับการใช้สิทธิบุตรคนที่ 3 จะไม่ได้รับเงินสงเคราะห์ในการหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร
นอกจากนี้ตามประกาศพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีการฝากครรภ์ตามเกณฑ์คุณภาพในปี 2564 ให้กับผู้ประกันตน ปรับเพิ่มค่าฝากครรภ์ 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,500 บาท จากเดิม 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,000 บาท ตามเงื่อนไขดังนี้
สิทธิผู้ประกันตนกรณีคลอดบุตร
- เป็นผู้มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท
- ผู้มีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท
- ผู้มีอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท
- มีอายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 32 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท
- ผู้มีอายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ ถึง 40 สัปดาห์ขึ้นไป จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท
การยื่นคําขอประโยชน์ทดแทน กรณีคลอดบุตร
การยื่นขอผลประโยชน์ทดแทนจากค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรประกันสังคม ต้องเตรียมเอกสารและดำเนินการ ดังนี้
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01 ผู้ประกันตนกรอกข้อความครบถ้วน พร้อมลงลายมือชื่อผู้ยื่นคำขอ (สามารถดาวน์โหลดออนไลน์ได้)
- สำเนาสูติบัตรบุตร 1 ชุด (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
- ผู้ประกันตนชาย (สามี) แนบสำเนาทะเบียนสมรส กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตน
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ ธนาคารที่สามารถยื่นได้มีดังนี้
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารทหารไทย
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
สามารถนำเอกสารไปยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดรวมถึงสาขาที่สะดวก หรือส่งไปรษณีย์ ระบุที่อยู่สำนักงานประกันสังคม
สิทธิประโยชน์เงินคลอดบุตร ประกันสังคม
เบิกค่าคลอดบุตร กี่วันได้เงิน
หลังจากทางสำนักงานประกันสังคมได้รับเอกสารและข้อมูลของผู้ประกันตนครบถ้วน จะใช้ระยะเวลา 5-7 วันทำการ ในการอนุมัติเงินเพื่อโอนเข้าบัญชีของผู้ที่ยื่นขอใช้สิทธิ
นอกจากสิทธิประโยชน์เงินค่าคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์บุตรจากประกันสังคมแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ควรคำนึงถึงสุขภาพทั้งของผู้เป็นแม่และลูกน้อย ด้วยการเลือกความคุ้มครองประกันภัยสุขภาพ เพื่อให้อุ่นใจหากเกิดเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่วงเงินประกันสังคมไม่ครอบคลุม ยังมีในส่วนของประกันภัยสุขภาพที่ช่วยให้อุ่นใจในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ไปจนถึงกรณีชดเชยรายได้เมื่อต้องนอนโรงพยาบาล ฮักส์มีประกันภัยสุขภาพทั้งสำหรับคุณแม่และลูกน้อยให้สามารถเลือกความคุ้มครองได้อย่างคุ้มค่าและครอบคลุม พร้อมยินดีให้คำแนะนำการเลือกซื้อประกันภัยที่ตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องการวางแผนเรื่องสุขภาพให้แก่ตนเองและลูกน้อย ติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : สำนักงานประกันสังคม, thairath, สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน