เฝ้าระวัง 3 โรคที่มากับหน้าหนาว ไม่อยากป่วย อย่าประมาท
เขียนเมื่อวันที่ 02/11/2021
โรคหน้าหนาวที่ต้องระวัง ป่วยได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
เตรียมเข้าสู่ช่วงปลายปีเช่นนี้หลายคนคงต้องตารอคอยกับช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย หลังจากที่พบเจอกับฤดูร้อนมาตลอดทั้งปี ซึ่งหน้าหนาวปีนี้ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า จะมีการออกประกาศการเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ.2564 ช่วงสิ้นเดือนตุลาคม โดยหลายพื้นที่อุณหภูมิเริ่มลดลงแล้วทั้งบริเวณตอนบนของประเทศ พร้อมประเมินว่าปีนี้จะหนาวนานกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลจะสัมผัสกับอากาศเย็นในช่วงเดือนธันวาคมไปจนถึงมกราคม
ช่วงฤดูหนาวเองก็ถือเป็นฤดูโปรดของหลายคน แต่ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ควรละเลยคือเรื่องของสุขภาพ เนื่องจากในบางพื้นที่มีสภาพอากาศที่เย็นลงอย่างเฉียบพลัน ทำให้อุณภูมิร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงและอาจส่งผลต่อสุขภาพ ที่อาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าช่วงเวลาปกติหรือช่วงฤดูอื่น ๆ อีกทั้งอากาศหนาวยังเป็นการเอื้ออำนวยต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งจะมีโรคหน้าหนาวไหนบ้างที่ควรเฝ้าระวัง ฮักส์รวบรวมข้อมูลโรคที่ต้องระวังในช่วงหน้าหนาวมาฝากกัน
โรคหน้าหนาว
รวมโรคหน้าหนาวที่ควรระวัง พร้อมอาการ
โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
ไข้หวัดใหญ่โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน โดยเชื้ออินฟลูเอนซา (influenza virus) ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ Influenza A และ Influenza B เป็นโรคที่พบเจอได้ทั่วโลกและจะพบได้มากในช่วงฤดูหนาว
อาการโรคไข้หวัดใหญ่
- มีอาการหนาวสั่น
- มีไข้ขึ้นสูง
- มีอาการเจ็บคอ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่
ผู้ป่วยควรดื่มน้ำให้มาก ๆ และเช็ดตัวทุกชั่วโมงเพื่อลดอุณภูมิร่างกาย ร่วมกับการรับประทานยาลดไข้ (ทานยาตามอาการ) หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์ อีกหนึ่งวิธีป้องกันคือการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยผู้ที่ควรรับวัคซีน ได้แก่ เด็กเล็ก และคนชรา ควรเข้ารับการฉีดทุกปี
โรคปอดบวม (Pneumonia)
ปอดบวมโรคที่เกิดจากภาวะปอดอักเสบมีสาเหตุเกิดจากแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ที่ก่อให้เกิดหนองและสารน้ำในถุงลม ทำให้ปอดบริเวณนั้นรับออกซิเจนได้ไม่เต็มที่และเกิดความผิดปกติ หรือเกิดจากการหายใจเอาสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจเข้าไป เช่น ฝุ่น ควัน หรือสารเคมี โรคนี้พบได้บ่อยในเด็กเล็กและผู้สูงอายุรวมถึงผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ซึ่งบางกรณีอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน
อาการโรคปอดบวม
- ไอมีเสมหะ
- เจ็บหน้าอกขณะไอหรือหายใจ
- หายใจลำบาก
- มีไข้ เหงื่อออก
- มีอาการหนาวสั่น
- รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องเสีย
- อ่อนเพลีย
- สำหรับผู้สูงอายุอาจมีอาการซึมและอุณหภูมิร่างกายที่ต่ำกว่าปกติ
- สำหรับเด็กเล็กอาจมีอาการท้องอืด อาเจียน ซึม
การรักษาโรคปอดบวม
เมื่อพบลักษณะอาการคล้ายโรคปอดบวมผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์เพื่อให้แพทย์จ่ายยาปฏิชีวนะ และยาชนิดอื่น ๆ ตามอาการที่พบ เช่น ยาขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะ ในผู้ป่วยบางรายอาจพบอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงเช่น เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายจากปอดเข้าสู่กระแสเลือด เป็นต้น สำหรับเด็กเล็กสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดบวมได้
ไข้หวัด (Common cold)
ไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยแบ่งเป็นกลุ่มไวรัสหลัก ๆ ของโรคนี้ได้ประมาณ 9 ชนิด โดยเชื้อไวรัสที่พบบ่อยคือ ไรโนไวรัส (Rhinovirus) ซึ่งไวรัสแต่ละชนิดจะก่อให้เกิดความรุนแรงของอาการป่วยที่ต่างกันออกไป
อาการโรคไข้หวัด
- มีอาการคัดจมูก
- น้ำมูกไหล
- ไอและจาม
- รู้สึกคันคอ
- มีไข้
- ปวดศรีษะ
- ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว
การรักษาโรคไข้หวัด
โรคไข้หวัดธรรมดาปกติสามารถทานยาแก้ไข้ หรือแก้หวัดเพื่อบรรเทาอาการ ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอหมั่นเช็ดตัวเพื่อให้ไข้ลด รับประทานยาลดน้ำมูกหรือแก้เจ็บคอ หากมีไข้สูงติดต่อกันหลายวันควรทำการพบแพทย์ ซึ่งโรคไข้หวัดยังไม่มีวัคซีนป้องกันเพราะสามารถเกิดได้จากเชื้อไวรัสหลายชนิด
โรคเหล่านี้ถือเป็นโรคใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมีโอกาสสูง ที่ร่างกายไม่สามารถปรับสภาพได้ทันหรือภูมิคุ้มกันตก อาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ควรเตรียมความพร้อมในเรื่องของสุขภาพทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย และเลือกทำประกันภัยสุขภาพที่คุ้มครองครอบคลุมในกรณีเจ็บป่วยทั้งในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง พร้อมเงินชดเชยรายได้หากต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล Hugs Insurance มีกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ยินดีให้คำแนะนำการเลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับคุณ ติดต่อฮักส์ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข, Bangkok Hospital, bumrungrad