4 โรคฮิตของคนอายุ 30 เป็นได้ทั้งหญิงและชาย

อายุเข้าสู่วัย 30 ไม่ดูแลตัวเองให้ดี ระวังโรครุมเร้า

ทุกอย่างบนโลกล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เรื่องสุขภาพของคนเราก็เช่นกัน เมื่ออายุก้าวเข้าสู่ตัวเลข 30 ย่อมมาพร้อมความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยระบบต่อมไร้ท่อและอวัยวะต่าง ๆ จะเริ่มทำงานลดลง จึงเป็นสัญญาณเตือนของความชราภาพกำลังมาเยือน สำหรับสิ่งที่คนอายุช่วงวัย 30 ปี ต้องเตรียมพร้อมรับมือ มีดังนี้ 

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : เมื่ออายุเข้าสู่เลขสามฮอร์โมนเพศจะลดลง มีส่วนทำให้เริ่มเบื่อการมีเพศสัมพันธ์ อีกทั้งสเปิร์มและไข้เริ่มไม่แข็งแรง ส่งผลให้ตั้งครรภ์ยาก

ร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง : ถึงแม้จะรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อย จึงเป็นเหตุให้เกิดความอ้วน เพราะฉะนั้นควรใส่ใจการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงทานผักผลไม้และหมั่นออกกำลังกาย 

มวลกระดูกบางลง : เมื่ออายุเข้าสู่วัย 30 ปี การสะสมของแคลเซียมในกระดูกเริ่มลดลง ทำให้เสี่ยงเกิดภาวะกระดูกพรุน เพราะฉะนั้นควรดื่มนมเพื่อเสริมแคลเซียม และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า : หากไม่ดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ในช่วงที่อายุขึ้นเลขสามอาจเสี่ยงโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง

โรคที่ผู้หญิงวัย 30 ต้องระวัง

นอกจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนวัย 30 ต้องระวังทั้งผู้หญิงและผู้ชาย คือการมาเยือนของโรคภัยที่อาจไม่มีสัญญานเตือนล่วงหน้า ดังนั้นควรใส่ใจดูแลสุขภาพ หากพบความผิดปกติของร่างกายแม้เพียงเล็กน้อยแนะนำให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะหากมีอาการป่วยของโรคจะได้รักษาทัน 

โรคยอดฮิตที่คนช่วงวัย 30 ต้องระวังมีอะไรบ้าง ? 

1. โรคปวดหัวไมเกรน 

ปวดหัวไมเกรนเกิดจากความเครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโดยเฉพาะในผู้หญิง รวมถึงหักโหมออกกำลังกายมากเกินไป ทานอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การใช้ยาบางชนิด หรือการสูบบุหรี่ โดยจะมีอาการคือรู้สึกปวดหัวข้างเดียวแบบตุบ ๆ เป็นจังหวะ ช่วงแรกปวดเพียงเล็กน้อย และค่อย ๆ รุนแรงมากขึ้น อีกทั้งอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย อาทิ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนแรง ไวต่อแสง เสียง และกลิ่น 

วิธีป้องกัน : พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ทำจิตใจให้ผ่อนคลายเพื่อลดความเครียด รวมถึงทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และไม่โหมงานหนักมากเกินไป 

2. โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ

สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีท่อปัสสาวะที่สั้นกว่า ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายผ่านทางช่องคลอด อุจจาระ และการมีเพศสัมพันธ์ สำหรับอาการของโรคคือ รู้สึกเจ็บในระหว่างที่ปัสสาวะ รวมถึงปัสสาวะ กะปริบกะปรอย ปัสสาวะบ่อย อั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะมีกลิ่นหรือมีเลือดปนออกมา อีกทั้งมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ คลื่นไส้อาเจียน มีไข้ และอ่อนเพลีย 

วิธีป้องกัน : ไม่ควรอั้นปัสสาวะนานเกิน 2 ชั่วโมง ที่สำคัญคือดูแลทำความสะอาดให้ถูกสุขอนามัย และระวังการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ 

3. โรคกรดไหลย้อน

สาเหตุเกิดการจากทานอาหารเสร็จแล้วนอนทันที รวมถึงทานอาหารมัน ๆ ในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้หูรูดปลายหลอดอาหาร และการบีบตัวของกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว เจ็บหน้าอก ไอเรื้อรัง ไซนัสอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ และหูอักเสบ

วิธีป้องกัน : ไม่ควรรับประทานอาหารแล้วนอนทันที ขยับร่างกายประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อให้อาหารย่อย รวมถึงหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม และควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน 

4. โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน

เป็นโรคที่มักพบในผู้ชาย สาเหตุเกิดจากการได้รับบาดเจ็บที่หลัง แบกของหนัก หรือนั่งในอิริยาบถไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดอาการปวดหลังตรงบั้นเอว และปวดร้าวลงมาที่ขา รวมถึงปวดเวลาก้ม นั่ง ไอ และเบ่งถ่าย มีส่วนทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงตามมาได้ 

วิธีป้องกัน : หลีกเลี่ยงการยกของหนัก จัดท่านั่งให้เหมาะสม ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ลดการสูบบุหรี่ที่มีส่วนทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วขึ้น และควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรง

โรคที่ผู้ชายวัย 30 ต้องระวัง

ถ้าไม่อยากมีโรครุมเร้าในช่วงวัย 30 ควรใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองตั่งแต่เนิ่น ๆ โดยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เลือกรับประทานอาหารมีประโยชน์ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึงหมั่นออกกำลังกาย และเพื่อลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายหากเกิดเจ็บป่วยในอนาคต การทำประกันภัยสุขภาพถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ฮักส์มีประกันภัยสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองอย่างคุ้มค่า เบี้ยเริ่มต้นเพียง 2,160 บาท / ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855 พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับประกันภัยที่เหมาะสมแก่คุณ 

อ้างอิงข้อมูล: bumrungrad, samitivejhospitals