วัคซีนโควิดจุฬาใบยา พร้อมรับมือเชื้อกลายพันธุ์
เขียนเมื่อวันที่ 05/10/2021
วัคซีนโควิดสัญชาติไทยจากจุฬาฯ ช่วยลดการแพร่ระบาด
สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยยังคงพบผู้ติดเชื้อ และมีเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากแพร่กระจายได้ง่าย ทำให้ทุกคนล้วนตกเป็นกลุ่มเสี่ยงหากไม่ระมัดระวังในการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังไม่มีวัคซีนโควิดชนิดไหนที่สามารถยับยั้งการติดเชื้อได้โดยตรง แต่ช่วยบรรเทาอาการไม่ให้รุนแรงได้ และ ณ เวลานี้ทั่วโลกได้มีการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสรวมถึงพัฒนาวัคซีนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดเชื้อกลายพันธุ์ไม่ให้แพร่ระบาด ซึ่งประเทศไทยได้มีการคิดค้นวัคซีนที่เป็นความหวังของคนไทยทั้งประเทศเช่นเดียวกัน โดยชื่อว่า “วัคซีนใบยา” ทดลองจากศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มีประสิทธิภาพที่ช่วยชะลอลดการแพร่ระบาดและอัตราการเสียชีวิตได้
วัคซีนโควิดจุฬาช่วยลดการแพร่เชื้อและเสียชีวิต
ทำความรู้จัก “วัคซีนใบยา” ฝีมือคนไทย ป้องกันโควิด-19
วัคซีนใบยาจากบริษัท ใบยา โฟโตฟาร์ม มีเทคนิคการใช้พืชเพื่อผลิตโปรตีน มีการใช้ในหลายประเทศ ซึ่งใบยาสูบเป็นสายพันธุ์ที่มีนิโคตินต่ำมาก สำหรับยาสูบที่ใช้เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมของประเทศออสเตรเลีย เมื่อฉีดวัคซีนใบยาเข้าไปในร่างกายจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และหากติดเชื้อโควิดสามารถป้องกันได้เช่นกัน วัคซีนใบยาผ่านการทดสอบในหนูและลิง โดยฉีด 2 เข็มห่างกัน 3 สัปดาห์ ผลการทดสอบพบว่าลิงปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ส่วนผลเลือดในลิงมีค่าเอนไซน์ตับปกติ รวมถึงจำนวนเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ อีกทั้งเมื่อนำเปปไทด์ไปกระตุ้นเซลล์ของของลิงพบว่ามีการกระตุ้น T Cell ได้ดี นับว่าเป็นการทดลองที่ประสบความสำเร็จ ที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือสามารถผลิตวัคซีนใบยาได้ประมาณ 10,000 โดสต่อเดือน ถือเป็นอีกหนึ่งความหวังของคนไทยที่จะมีวัคซีนสัญญาณไทยป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ได้มีการต่อยอดพัฒนาวัคซีนใบยารุ่นที่ 2 เพื่อรับมือเชื้อกลายพันธุ์อีกด้วย
วัคซีนใบยา เทียบเท่า วัคซีนโนวาแวกซ์ จริงหรือ ?
วัคซีนโนวาแวกซ์ผลิตจากโปรตีนของเชื้อไวรัส สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมได้ 96.4% สายพันธุ์อัลฟ่า 86% ส่วนสายพันธุ์แอฟริกาเหลือ 48.6% ซึ่งวัคซีนใบยาผลิตจากโปรตีนเช่นเดียวกัน ทำให้มั่นใจได้ว่ามีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าวัคซีนโนวาแวกซ์
วัคซีนใบยาพร้อมฉีดบนแขนคนไทยภายในปี 2565
วัคซีนใบยาพร้อมฉีดให้คนไทยในปี 2565
เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดรับอาสาสมัครทดลองฉีดวัคซีนใบยากลุ่มแรกจำนวน 50 คน อายุตั้งแต่ 18-60 ปี เงื่อนไขคืออาสาสมัครทุกคนต้องมีสุขภาพแข็งแรง และไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน สำหรับการทดสอบจะเริ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2564 อาสาสมัครจะได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 2 เข็ม โดยเว้นระยะเวลาห่างกัน 3 สัปดาห์ จากนั้นจะทำการทดสอบกับอาสาสมัครอายุ 60-75 ปีเป็นกลุ่มต่อไป คาดว่าวัคซีนใบยาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จะได้ฉีดลงบนแขนคนไทยช่วงกลางปี 2565
เมื่อไวรัสโควิด-19 ยังคงสามารถกลายพันธุ์ได้ ทำให้แพร่เชื้อเร็วและรุนแรงกว่าเดิม การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะถึงแม้ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้โดยตรง แต่ช่วยลดระดับความรุนแรงรวมถึงลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้ ที่สำคัญคือคนที่เคยติดโควิดแล้วสามารกลับมาติดซ้ำได้เช่นกัน ซึ่งเกิดจากระดับภูมิต้านลดลง เพราะฉะนั้นการเข้ารับฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงจำเป็นอย่างมาก
ข้อควรรู้ หายจากโควิดฉีดวัคซีนได้ไหม ?
เมื่อหายจากโควิดแล้วต้องการเข้ารับการฉีดวัคซีน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- ผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่เคยได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม รวมถึงได้รับวัคซีน 2 เข็มแต่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากหายโควิดแนะนำให้ฉีดวัคซีนภายใน 1-3 เดือน
- ผู้ติดเชื้อที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป ยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 เพิ่ม
โควิด-19 ยังคงเป็นไวรัสตัวการร้ายที่คร่าชีวิตคนทั่วโลก และทุกคนล้วนตกเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดด้วยกันทั้งนั้นถ้าไม่ดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวหากติดโควิดในอนาคต การทำประกันภัยโควิดถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ฮักส์มีประกันภัยโควิดเบี้ยเริ่มต้นเพียง 300 บาท/ปี นอกจากนี้ยังมีประกันภัยวัคซีนโควิดเบี้ยเริ่มต้นเพียง 70 บาท/ปี พร้อมให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมในราคาที่คุณเอื้อมถึง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855 ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับทุกประกันภัยที่คุณสนใจ
อ้างอิงข้อมูล : chula, chulalongkornhospital, chulalongkornhospital, bangkokbiznews