ยกเลิก Test & Go ป้องกันโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน
เขียนเมื่อวันที่ 30/12/2021
เช็คมาตรการเดินทางเข้าไทยช่วง COVID-19 ล่าสุดที่นี่
นับตั้งแต่มีการประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เพื่อหวังฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ลากยาวมาเกือบ 2 ปี โดยการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวครั้งนี้ ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีการปรับมาตรการและเงื่อนไขการเข้าประเทศไทยของทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ภายใต้ชื่อโครงการ Test & Go โดยไม่ต้องกักตัว และเพื่อทำความเข้าใจมาตรการเดินทางเข้าไทยช่วงโควิด วันนี้ HUGS Insurance จะพาไปทำความรู้จักกับ Test & Go ว่าคืออะไร มีเงื่อนไขอย่างไร ไปจนถึงรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วม Test and Go ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่มีแผนมาพักผ่อนที่ไทย
ทำความรู้จักมาตรการ Test & Go ก่อนเดินทางเข้าไทย
มาตรการ Test and go หรือ Exemption from Quarantine เป็นหนึ่งในโครงการใหม่ที่ถูกนำมาใช้เพื่อต้อนรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ Test & Go คือนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศ และมาจากประเทศที่กำหนดว่าเป็นประเทศความเสี่ยงต่ำ บุคคลดังกล่าวได้รับการยกเว้นจากการกักตัว ทั้งนี้พอเดินทางเข้าไทยทุกคนต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ผลเป็นลบ โดยเป็นการตรวจก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง แล้วมีการตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางมาถึงประเทศ
ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแบบไม่ต้องกักตัว ต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด
เงื่อนไขและเอกสารที่ต้องใช้ในโครงการ Test & Go มีอะไรบ้าง
(1) มีเอกสารหรือหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีน (Certificate of Vaccination) อย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทางมาประเทศไทย และต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรอง
(2) กรณีเคยติดเชื้อและได้รับวัคซีน 1 เข็มในช่วง 3 เดือนหลังติดเชื้อ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง
(3) เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หากเดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนตามเกณฑ์แล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ภายใต้เงื่อนไขไม่ต้องกักตัวเช่นเดียวกับผู้ปกครอง แต่ต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 จากน้ำลาย
(4) มีผลการตรวจโควิดภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง
(5) ต้องมีเอกสารยืนยันการจองโรงแรมที่ได้รับการรับรองให้เป็นโรงแรมที่มีความปลอดภัยและมาตรการการป้องกันโควิด-19 Safety & Health Administration (SHA+) หรือ AQ Alternative Quarantine (AQ) จะให้บริการแพ็คเกจเข้าพัก 1 คืน สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามข้อกำหนดของไทยไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนเดินทางที่เดินทางมายังประเทศไทย และจะต้องพักอยู่ในห้องจนกว่าผลตรวจ RT-PCR จะออกจึงจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้
(6) มีกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือตลอดระยะเวลาที่อยู่ในไทย วงเงินไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตามที่ทางราชการกำหนด (ยกเว้นคนไทยที่มีสิทธิ์การรักษาพยาบาลอยู่แล้ว)
(7) ดำเนินการยื่นเอกสารเดินทางเข้าประเทศผ่าน www.tp.consular.go.th
(8) ระบบทำการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐาน เมื่อได้รับการยืนยันผลการอนุมัติจะได้รับ QR code
(9) เมื่อเดินทางมาถึงต้องผ่านด่านควบคุมโรคเพื่อสแกน QR code ตรวจเอกสาร และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
(10) ตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ณ โรงแรม หรือสถานที่ที่โรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการกำหนด
(11) ผู้เดินทางต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” (ภาษาอังกฤษ) และรอผลตรวจในห้องพัก
(12) หากไม่ติดเชื้อ COVID-19 นักเดินทางที่ร่วมโครงการ Test & Go จะได้รับชุดตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) สำหรับตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองในวันที่ 6-7 และสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แบบไม่จำกัดพื้นที่ทั่วประเทศ
(13) หากพบว่าติดเชื้อ ต้องเข้ารับการดูแลรักษาพยาบาล
ปรับแผนดึงต่างชาติเที่ยวไทยใหม่ หลังยกเลิก Test & Go
ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายหลังมาตรการ Test and go ประกาศใช้ได้เพียงเดือนกว่า หลายประเทศต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน รวมถึงประเทศไทยที่มีการตรวจพบนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยผ่านโครงการ Test & Go เป็นผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าว ฉะนั้นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ที่ประชุม ศบค. มีมติยกเลิกโครงการ Test & Go พร้อมปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักรใหม่ทั้งแบบแซนด์บ็อกซ์ และ Test & Go ที่ขออนุมัติไว้แล้ว โดยมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขดังนี้
- ปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยระงับการลงทะเบียนชั่วคราวประเภท Test & Go และ Sandbox ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2565
- ปรับมาตรการตรวจหาเชื้อโควิดจากเดิน 1 ครั้ง เป็นตรวจ RT- PCR จำนวน 2 คร้ัง และต้องมีการกำกับติดตามอาการ การอยู่ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว รวมท้ังการติดตามการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ให้ได้ 100%
- ปรับมาตรการสำหรับคนในประเทศไทย โดยให้ประชาสัมพันธ์คนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศ พิจารณาชะลอหรือยกเลิกการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะประเทศทางยุโรป สหรัฐอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง พร้อมให้มีการตรวจ ATK ก่อนเดินทาง และประชาสัมพันธ์ให้มีการใช้ ATK ด้วยตัวเองเป็นระยะ ๆ หรือเมื่อมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
เมื่อพิจารณาเงื่อนไขเกี่ยวกับการยกเลิกโครงการ Test & Go ในข้างต้น พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยลงทะเบียน Test & Go และได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไทยก่อนวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ยังคงสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยได้ตามเดิม เพียงต้องเข้ารับการตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวใหม่ที่ยังไม่เข้าระบบ Thailand Pass สามารถเดินทางทางเข้าประเทศได้ 2 ช่องทาง คือ
(1) ผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จังหวัดเดียวเท่านั้น
(2) ผ่านระบบ State Quarantine และต้องตรวจในระบบ RT-PCR ก่อนและหลังกักตัว 7-10 วัน
นักท่องเที่ยวต่างชาติพักในโรงแรมระหว่างรอผลตรวจโควิด
สำหรับคนไทยในฐานะเจ้าบ้านควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งของต่าง ๆ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีกลุ่มคนพลุกพล่าน และออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ส่วนใครที่กำลังเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 3 แต่กังวลอาจเกิดอาการแพ้วัคซีน สามารถเลือกทำประกันภัยวัคซีนโควิดที่ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ หากต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงซื้อประกันภัยสุขภาพเพื่อรับความคุ้มครองยามเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปหรือโรคโควิด-19 ทั้งในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง เงินชดเชยรายได้หากนอนโรงพยาบาล โดยฮักส์ยินดีให้คำแนะนำการเลือกซื้อประกันภัยสุขภาพและประกันภัยวัคซีนโควิดที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : ศูนย์ข้อมูล COVID-19, thaiontours.com, กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ