ภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิดต้องเท่าไหร่ ป้องกันเชื้อไวรัสได้
เขียนเมื่อวันที่ 25/08/2021
เช็คค่าภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดโอกาสการติดเชื้อ
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน วัคซีนถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ ลดอาการเจ็บป่วยรุนแรง และช่วยลดอัตราความเสี่ยงการเสียชีวิต ซึ่งวัคซีนแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับสุขภาพ ร่างกายของผู้รับวัคซีนด้วยเช่นกัน
หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หลายคนมีข้อสงสัยว่าค่าภูมิคุ้มกันที่ดีหลังฉีดควรขึ้นเท่าไหร่ ควรฉีดกระตุ้นภูมิเข็ม 3 หรือจำเป็นต้องทำการตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดหรือไม่ ฮักส์ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกัน
ตรวจภูมิคุ้มกันโควิด คืออะไร
การตรวจเพื่อหาเชิงปริมาณภูมิต้านทานในร่างกายของมนุษย์ที่มีต่อเชื้อ SARS-CoV2 หรือเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยการตรวจระดับภูมิต้านทานชนิด IgG,IgM (Total antibody) สามารถตรวจได้ทั้งก่อนและหลังได้รับวัคซีน หรือผู้ที่เคยผ่านการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเป็นการทดสอบระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ใครสามารถตรวจภูมิคุ้มกันโควิด-19 ได้บ้าง?
สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจภูมิคุ้มกันโควิด-19 เพื่อตรวจหาระดับภูมิในร่างกาย สามารถเลือกตรวจได้จากหลายช่วงโอกาส ดังนี้
ตรวจภูมิคุ้มกันโควิด-19
การตรวจภูมิโควิด-19 ก่อนหรือหลังได้รับวัคซีนโควิด
ผู้ที่ต้องการตรวจภูมิคุ้มกันโควิด-19 ในกรณีก่อนได้รับวัคซีนสามารถทำการตรวจได้เลย แต่สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด ควรตรวจหลังจากได้รับวัคซีนไปแล้วประมาณ 14-28 วัน (ขึ้นอยู่กับชนิดวัคซีนที่ทำการฉีด) ตรวจได้ทั้งหลังรับวัคซีนเข็มแรกหรือเมื่อรับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม แต่ไม่ควรทิ้งระยะเวลานานเกิน 3 เดือน
การตรวจภูมิคุ้มกันหลังติดเชื้อโควิด-19
สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังผ่านการติดเชื้อแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ จึงสามารถทำการตรวจระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายได้
*ซึ่งการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันโควิด-19 เป็นเพียงทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการทราบถึงระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายเท่านั้น
ภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิดต้องเท่าไหร่
จากข้อมูลของโรงพยาบาลเพชรเวชกล่าวเกี่ยวกับค่าการตรวจภูมิคุ้มกันโควิด ที่สามารถบ่งบอกเกี่ยวกับระดับภูมิคุ้มกัน ดังนี้
ระดับมากกว่า 0.8 U/mL
เป็นค่าที่ตรวจพบว่าร่างกายมีการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันโควิด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสติดเชื้อ หรือไม่มีโอกาสแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่น ถึงแม้จะตรวจพบการตอบสนองต่อวัคซีนและระดับภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้น แต่ควรปฏิบัติตามแนวทางป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดเช่นเดิม
ระดับน้อยกว่า 0.8 U/mL
เป็นค่าที่ตรวจพบว่าร่างกายไม่ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันโควิด-19 ถึงแม้จะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือร่างกายได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ชนิดของวัคซีนที่ได้รับ รูปแบบการตอบสนองของร่างกาย และความแข็งแรงของร่างกาย เป็นต้น
โดยในปัจจุบันยังไม่มีการรายงานการศึกษาที่แน่ชัด เกี่ยวกับระดับภูมิคุ้มกันที่เหมาะสมหลังได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม ว่าควรมีค่าภูมิคุ้มกันอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ จึงจะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ซึ่งต้องรอผลการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปในอนาคต และยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาให้คำแนะนำที่แน่ชัดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนซ้ำ หรือระดับภูมิคุ้มกันจะอยู่ได้นานเท่าไหร่
การตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการทราบระดับภูมิต้านทานของตนเอง ซึ่งจะทำการตรวจหรือไม่ตรวจก็ได้ แต่ถึงแม้ระดับภูมิต้านทานร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เช่นกัน ดังนั้นควรเริ่มต้นวางแผนดูแลตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง เว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงการเลือกทำประกันภัยโควิดและประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่นการได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 จะได้อุ่นใจในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล หรือ หลังได้รับวัคซีนกรณีที่เกิดอาการแพ้รุนแรง โดยมีค่ารักษายาบาลตามเงื่อนไขที่กำหนด ฮักส์ยินดีให้คำปรึกษาการเลือกประกันภัยโควิด-19 และประกันภัยวัคซีนโควิด-19 ที่เหมาะกับคุณ สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : โรงพยาบาลวิชัยเวช, โรงพยาบาลเพชรเวช