กลับจากเที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ ผลตรวจเป็นลบ ต้องกักตัวไหม
เขียนเมื่อวันที่ 06/01/2022
เดินทางเที่ยวปีใหม่ต่างประเทศ กลับไทยต้องกักตัวไหม
สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากการกลายพันธุ์ของไวรัสที่เพิ่มความรุนแรงและความรวดเร็วของการแพร่กระจายเชื้อ โดยสายพันธุ์ล่าสุดที่มีการตรวจพบคือเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ โอไมครอน (Omicron) ตรวจพบครั้งแรกในแถบตอนใต้ของทวีปแอฟริกาใต้ ซึ่งขณะนี้พบการระบาดในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ประเทศแอฟริกาใต้ บอตสวานา นามิเบีย เบลเยียม ฮ่องกง อิสราเอล ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร เยอรมนี แคนาดา อิตาลี เกาหลีใต้ รวมถึงประเทศไทย โดยรายแรกเป็นหญิงคนไทยที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์นี้จากสามีที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ถือเป็นการติดเชื้อโอไมครอนรายแรกในประเทศ อีกทั้งใกล้เข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เช่นนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเพิ่มมาตรการป้องกันที่คุมเข้มมากยิ่งขึ้น และสำหรับคนที่แพลนเตรียมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศช่วงปีใหม่นี้แต่เป็นกังวลเรื่องการเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ว่าจะมีมาตรการไหนบ้างนั้นหรือต้องกักตัวหรือไม่ Hugs Insurance รวบรวมข้อมูลน่าสนใจมาฝากกัน
คนไทยกลับจากต่างประเทศต้องกักตัวไหม
การกักตัวช่วงโควิด-19
ขณะนี้การเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยจะต้องใช้เงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศภายใต้โครงการ Test & Go มีขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทย ดังนี้
1. ผู้เดินทางเข้าไทยทุกคนต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass อย่างน้อย 7 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศ
2. ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับ QR Code ผ่านช่องทางอีเมล สำหรับใช้แสดงต่อสายการบินและด้านตรวจคนเข้าเมือง หากไม่มี QR Code จะถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าประเทศไทย
3. สำหรับคนไทยที่เดินทางจาก 63 ประเทศที่กำหนดและได้มีการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วัน จะสามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ภายใต้โครงการ TEST & GO บนเงื่อนไข คือ
- ต้องพำนักอยู่ในพื้นที่ประเทศที่ได้รับอนุญาต ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 21 วัน
- ต้องทำการจองและจ่ายค่าห้องพักที่โรงแรม SHA+ หรือ Alternative Quarantine (AQ) 1 คืน
- ต้องใช้ผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนขึ้นเครื่องบิน (ยกเว้กกรณีเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ที่เดินทางพร้อมผู้ปกครอง และผู้ที่เคยติดเชื้อและหายป่วยแล้วไม่น้อยกว่า 14 วันแต่ต้องไม่เกิน 3 เดือน สามารถใช้เอกสารยืนยันการหายป่วยได้ในกรณีที่ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก)
- สำหรับคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศไม่ต้องใช้ประกันสุขภาพ (หากเป็นชาวต่างชาติต้องใช้ประกันสุขภาพวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 USD หรือประมาณ 1,680,000 บาทไทย)
- สำหรับคนไทยเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยต้องทำการตรวจโควิด-19 ในวันแรกที่เดินทางมาถึงและต้องรอที่โรงแรม จนกว่าจะได้รับแจ้งผลตรวจเป็นลบ เมื่อได้รับผลตรวจเป็นลบจึงจะสามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่นได้
วิธีการลงทะเบียน THAILAND PASS
คิวอาร์โค้ดแสดงผลฉีดวัคซีน
การเดินทางเข้าประเทศไทยถึงแม้จะเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยหรือถือพาสปอร์ตประเทศไทยต้องทำการลงทะเบียน THAILAND PASS ก่อนเดินทางเข้าประเทศอย่างน้อย 7 วันและต้องมี QR Code เพื่อใช้ในการเดินทางเข้าประเทศ โดยมีเอกสารและการลงทะเบียน ดังนี้
- สำเนาหนังสือเดินทาง
- หลักฐานการฉีดวัคซีน หากระยะห่างระหว่างเข็มน้อยกว่าที่กำหนด หลักฐานการฉีดวัคซีนจะถูกปฏิเสธ โดยวัคซีนที่ประเทศไทยยอมรับ ได้แก่
- Sinovac (2 เข็ม ระยะห่าง 2 สัปดาห์)
- AstraZeneca (2 เข็ม ระยะห่าง 4 สัปดาห์)
- Johnson & Johnson (1 เข็ม)
- Pfizer (2 เข็ม ระยะห่าง 3 สัปดาห์)
- Moderna (2 เข็ม ระยะห่าง 4 สัปดาห์)
- Sinopharm (2 เข็ม ระยะห่าง 3 สัปดาห์)
- Sputnik V (2 เข็ม ระยะห่าง 3 สัปดาห์)
- เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนต้องประกอบด้วยรายละเอียดยืนยันตัวบุคคล อาทิ ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด สัญชาติ หมายเลขหนังสือเดินทางและรายละเอียดการได้รับวัคซีน
- ผู้ที่เคยติดเชื้อและหายป่วยแล้ว สามารถแสดงหนังสือยืนยันการติดเชื้อหรือการหายป่วยประกอบกับหลักฐานการฉีดวัคซีน 1 เข็มได้
- หลักฐานการจองโรงแรมตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยต้องแสดงหลักฐานการจองโรงแรม SHA+ หรือ AQ ที่ออกให้โดยโรงแรมโดยตรง
- สำหรับผู้เดินทางอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ต้องลงทะเบียนแยกรายบุคคลและเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ลงทะเบียนพร้อมผู้ปกครอง
- เมื่อการลงทะเบียนได้รับการอนุมัติแล้ว ระบบ Thailand Pass จะส่ง QR Code ผ่านทางอีเมล
โดยล่าสุดหลังจากที่มีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อย่างโอไมครอนในประเทศไทย ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมยกระดับเพิ่มมาตรการป้องกันอาจมีการกลับมาใช้ State Quarantine หรือ การกักตัวผู้เดินทาง ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาภายในประเทศ ซึ่งมีการเสนอศบค.ให้ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go (T&G) นั่นเอง
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นนี้เรื่องของการใส่ใจดูแลสุขภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ ควรเลือกวางแผนดูแลสุขภาพด้วยการเลือกทำประกันภัยสุขภาพที่คุ้มครองครอบคลุมทั้งในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง หรือวงเงินชดเชยรายได้หากนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ฮักส์มีกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพที่หลากหลายยินดีให้คำแนะนำการเลือกทำประกันภัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตของคุณ สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่าน Facebook: HUGS Insurance หรือทางช่องทางไลน์ @hugsinsurance หรือ โทร 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา, vichaivej, matichon