ชอบกินอาหารรสจัด ระวังโรคร้ายมาเยือนเพียบ

เขียนเมื่อวันที่ 19/07/2021

อันตรายกินอาหารรสจัด เสี่ยงเป็นหลายโรค

รสชาติอาหารที่หลายคนโปรดปราน คือ รสจัด เป็นอาหารที่มีครบ 5 รส ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ด ซึ่งแต่ละรสชาติหากกินมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ และเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาได้ ถ้าอย่างนั้นมาดูกันว่าประโยชน์และโทษของอาหารรสชาติจัดจ้าน รวมถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจต้องเผชิญในอนาคตมีอะไรบ้าง

ประโยชน์ของรสชาติแต่ละประเภท

อาหารรสหวาน

น้ำตาลแฝงอยู่ในอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต รวมถึงน้ำตาลและอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งต่าง ๆ ที่ให้พลังงานกับร่างกายโดยทันที ส่งผลให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังส่งเสริมการทำงานของกระเพาะอาหารและม้าม เนื่องจากรสหวานมาพร้อมสรรพคุณทางยา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ แก้อาการอ่อนเพลีย และแก้กระหาย

อาหารรสเผ็ด

เกิดจากสารแคปไซซิน (Capsaicin) ที่อยู่ในพริก ซึ่งสารชนิดนี้ช่วยให้ปอดและลำไส้ทำงานปกติ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยขับเหงื่อ ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ รวมถึงเร่งอัตราการเผาผลาญ ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้เร็วขึ้นอีกด้วย

อาหารรสเค็ม

โซเดียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของเกลือ ทำหน้าที่สำคัญในการควบคุมความสมดุลของเหลวในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความดันโลหิตให้อยู่ระดับปกติ ช่วยควบคุมระดับความเป็นกรดและด่างของเลือด

อาหารรสเปรี้ยว

ความเปรี้ยวช่วยกระตุ้นการทำงานของตับและถุงน้ำดีให้ปล่อยน้ำย่อย ทำให้ร่างกายดูดซึมอาหารได้ดี ทั้งยังมีส่วนช่วยฟอกเลือด ขับเสมหะ แก้เลือดออกตามไรฟัน รวมถึงเป็นยาระบายอ่อน ๆ อีกด้วย

กินอาหารรสจัด เสี่ยงโรคอะไรบ้าง

อาหารรสหวาน

เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง กินมากไปเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

การกินอาหารที่มีรสหวานมากเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนเสียสมดุล เป็นผลให้ตับอ่อนต้องทำงานหนักเพื่อผลิตอินซูลินมากขึ้นจนเสื่อมสภาพ และไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอ จนอาจป่วยเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้ความหวานยังทำให้อ้วนและเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ โรคไตอีกด้วย

อาหารรสเผ็ด

แม้สาร Capsaicin ในพริกช่วยเพิ่มความเร็วในการเผาผลาญอาหาร แต่ถ้ากินอาหารรสเผ็ดจัดมากเกินไป ก็สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร จนเป็นสาเหตุให้ลำไส้แปรปรวนและกรดไหลย้อน หากไม่รักษาปล่อยให้มีอาการเรื้อรัง อาจกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ 

อาหารรสเค็ม

เมื่อร่างกายมีปริมาณโซเดียมจากเกลือสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายมีอาการบวมน้ำ เพราะไตขับเกลือออกไม่ทัน หากคุณเป็นคนดื่มน้ำน้อย ความเข้มข้นของเกลือในเลือดมากขึ้น เลือดจึงมีความหนืดมาก ทำให้เลือดไหลเวียนช้ากลายเป็นความดันโลหิตสูง และในระยะยาวมีผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวขึ้น มีโอกาสเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและไตเสื่อมได้ในที่สุด

อาหารรสเปรี้ยว

ถึงรสเปรี้ยวช่วยกระตุ้นการทำงานของตับและถุงน้ำดี แต่หากทานมากเกินไป ยิ่งเป็นการเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารให้สูงขึ้น ทำให้เสี่ยงเป็นโรคกระเพาะ ลำไส้แปรปรวน ภาวะกรดไหลย้อน นอกจากนี้กรดยังกัดกร่อนผิวฟัน ทำให้ฟันบางลง เสียวฟัน และฟันผุง่ายขึ้น ทั้งยังส่งผลต่อระบบน้ำเหลืองในร่างกาย ที่ทำให้บาดแผลหายช้าลงกว่าปกติ

อาหารรสมัน

การกินอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไป ส่งผลให้มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้ ทั้งยังทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับ ถึงขั้นอาจลุกลามเป็นโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ นอกจากนี้ความอ้วนผอมไม่ใช่ตัววัดระดับคอเลสเตอรอลหรือระดับไขมันในเส้นเลือด ฉะนั้นอย่าคิดว่ากินข้าวขาหมูเป็นประจำแต่น้ำหนักไม่ขึ้น ใช่ว่าคุณจะปลอดภัยจากภาวะไขมันเกินในกระแสเลือด

กินอาหารอย่างไร ให้ลดความเสี่ยงเกิดโรคร้าย

เพื่อให้ห่างไกลจากโรคร้ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน ซึ่งล้วนเป็นโรคที่ยากต่อการรักษาให้หายขาด ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่ ดังนี้

1. เลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ผักและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง รวมถึงธัญพืชต่าง ๆ ที่สามารถทานเป็นของกินเล่นเวลาว่างได้
2. ลดการปรุงอาหารรสจัด เพื่อเลี่ยงความหวาน ความมัน และความเค็ม
3. พยายามลดหรือเลี่ยงอาหารที่ใช้กะทิหรือน้ำมันในการประกอบอาหาร
4. หลีกเลี่ยงหรืองดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก อาทิ น้ำอัดลม น้ำหวาน ชาไข่มุก กาแฟเย็น และน้ำผลไม้ เป็นต้น

คงเห็นกันแล้วว่าการทานอาหารรสจัดมีทั้งประโยชน์และโทษ จึงควรหันมาใส่ใจเรื่องอาหารที่ทานให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับดื่มน้ำให้พอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอ ทั้งยังเป็นการฟื้นฟู​สุขภาพร่างกายให้แข็งแรงขึ้น 

แต่ถึงดูแลสุขภาพดีแค่ไหน ก็มีโอกาสเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นได้เสมอ ฉะนั้นการมีประกันภัยสุขภาพช่วยเสริมความมั่นใจว่าหากเกิดอาการเจ็บป่วยในอนาคตจะได้หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล และฮักส์มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยมากมายที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ทั้งประกันภัยสุขภาพและประกันภัยมะเร็ง สามารถปรึกษาฮักส์ได้ตามช่องทางที่สะดวก ทั้ง Facebook Line หรือโทร 0 2975 5855