loading
เช็คให้ชัวร์ อาการโอไมครอน โควิดกลายพันธุ์ อันตรายรอบใหม่

เช็คให้ชัวร์ อาการโอไมครอน โควิดกลายพันธุ์ อันตรายรอบใหม่

เขียนเมื่อวันที่ 30/12/2021

เฝ้าระวังไวรัสโควิด สายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังระบาด

โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่ยังคงมีการกลายพันธุ์และพบผู้ติดเชื้อใหม่ทุกวัน โดยเริ่มต้นการระบาดมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ขณะนั้นจัดเป็นโรคอุบัติใหม่ เพราะไม่เคยพบรหัสพันธุกรรมไวรัสชนิดนี้มาก่อน การแพร่ระบาดในช่วงแรกเป็นไปอย่างกว้างขวาง ครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วโลกจนกระทั่งมีการคิดค้นวัคซีนเพื่อรักษา แต่โควิดก็ยังมีการกลายพันธุ์มาโดยตลอด จนช่วงปลายปี 2564 ก็เกิดการกลายพันธุ์ครั้งใหม่ชื่อสายพันธุ์ว่า “โอไมครอน”

ข้อมูลการแพร่ระบาดของโควิด สายพันธุ์โอไมครอน

ไวรัสโควิดมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลาเพื่อเอาตัวรอดจากภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ซึ่งการกลายพันธุ์แต่ละครั้งก็จะมีการจัดประเภทออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ โดยองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้แก่

  • Variant of Interest - การกลายพันธุ์ที่น่าจับตามอง เป็นการกลายพันธุ์ที่ไม่ได้แพร่ระบาดเป็นวงกว้าง มักจะรับมือได้ดี เช่น ไวรัสสายพันธุ์มิว (Mu) ไวรัสสายพันธุ์ซีตา (Zeta)
  • Variant of Concern - การกลายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วง เป็นการกลายพันธุ์หลายจุดบนตัวไวรัส มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง และยากต่อการรับมือ เช่น ไวรัสสายพันธุ์เดลตา (Delta) ไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน (Omicron)

ไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าโควิดสายพันธุ์ ​B.1.1.529 พบการระบาดครั้งแรกในทวีปแอฟริกาใต้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศชื่อสายพันธุ์โอไมครอนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 โดยระบุว่ามีการกลายพันธุ์มากกว่า 50 ครั้ง พบการกลายพันธุ์บริเวณหนามโปรตีนของไวรัสถึง 32 ตำแหน่ง และบริเวณจุดรับที่ยึดติดกับผิวมนุษย์สามารถยึดเกาะได้มากถึง 10 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตาที่ยึดเกาะเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น ทำให้เห็นความวิตกกังวลต่อไวรัสโอไมครอนได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีมาตรการเฝ้าระวังออกมาเพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ในแต่ละประเทศ

อาการของผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอไมครอน

คนป่วยนอนบนเตียง

อาการป่วยที่อาจเป็นสัญญาณของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน

ไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่เพิ่งพบการระบาดครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน แต่การแพร่ระบาดขยายเป็นวงกว้างในเวลาเพียงไม่นาน เนื่องมาจากการรู้จักปรับตัวของไวรัสที่เพิ่มระดับการแพร่กระจายให้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น หลายฝ่ายกำลังวิจัยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวรัสชนิดนี้ แต่เพราะระยะเวลาที่เพิ่งเริ่มระบาดทำให้ข้อมูลค่อนข้างน้อย จากข้อมูลที่มีทำให้ทราบอาการของโควิดโอไมครอน ดังนี้

  • มีไข้ต่ำ หรือไม่สบายเฉียบพลัน แต่อาการน้อย พักรักษาตัวเพียง 1 – 2 วันก็หายจากอาการไข้
  • มีอาการไอแห้ง จาม และระคายคอ
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย ข้อต่อและข้อพับต่าง ๆ และปวดเมื่อยภายในกล้ามเนื้อ
  • สามารถรับรสชาติและได้กลิ่นปกติทุกอย่าง
  • พบว่าหากติดในผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคเบาหวานจะทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น
  • มีเหงื่อออกตอนกลางคืน แม้จะนอนในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวกหรือนอนในห้องแอร์
  • รู้สึกเหนื่อยอ่อนง่ายกว่าปกติ

การพบไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนยังคงเป็นเรื่องใหม่และต้องมีการเฝ้าดูอาการในกลุ่มผู้ป่วยที่หลากหลายมากขึ้น เพราะในปัจจุบันพบการติดต่อในผู้ป่วยที่สุขภาพดีและอายุไม่มาก บางส่วนของผู้ป่วยได้รับวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว อาการที่แสดงออกของสายพันธุ์โอไมครอนจึงยังไม่รุนแรง หากมีกลุ่มผู้ป่วยมากขึ้นและอาการยังคงไม่รุนแรงเช่นนี้ เน้นการแพร่ระบาดมากกว่าการส่งผลต่อชีวิต โอกาสที่สายพันธุ์โอไมครอนจะทำให้โควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่นก็มีมาก ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีของการระบาด

การรู้จักอาการเบื้องต้นช่วยให้เฝ้าระวังหากมีอาการสุ่มเสี่ยงได้ ยุคที่โควิดยังคงระบาดและมีโอกาสพบการกลายพันธุ์ได้เรื่อย ๆ การมีประกันภัยสุขภาพเอาไว้จะช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลเมื่อตรวจพบโควิด รวมถึงช่วยหาเตียงในโรงพยาบาลให้ด้วย ทุกคนจึงควรมีประกันภัยสุขภาพไว้เพื่อความอุ่นใจ

ผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในไทย

อาการของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมีสิ่งที่น่าวิตกเกี่ยวกับความรวดเร็วในการระบาด พบการระบาดในหลายภูมิภาคทั่วโลก ประเทศไทยเองก็พบผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอนในประเทศและจัดเป็นประเทศที่ 47 ของโลกที่พบผู้ป่วยสายพันธุ์ไอไมครอน สถานการณ์การระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนในไทยเป็นดังนี้

  • พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอไมครอนครั้งแรกในไทยวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ผู้ป่วยเป็นชาวอเมริกันที่เดินทางมาจากสเปน ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน และระวังตัวเองสูงจึงไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
  • พบผู้ติดเชื้อต่อมาเป็นชาวไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศไนจีเรีย 2 ราย
  • ขณะนี้มีผู้ยืนยันการติดเชื้อสายพันธุ์ไมครอนในไทยแล้วทั้งหมด 8 ราย และกำลังตรวจเพิ่มเติมอีก 3 รายที่มีโอกาสเป็นโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูง
  • การระบาดในไทยสายพันธุ์หลักยังคงเป็นสายพันธุ์เดลตา แต่จากสถานการณ์ทั่วโลก ไทยมีโอกาสพบการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนเช่นกัน ซึ่งหากอาการไม่รุนแรงเช่นนี้การระบาดของโอไมครอนจะส่งผลในทิศทางที่ดี เพราะอาจจะทำให้โควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่นได้
  • มีการเฝ้าระวังสายพันธุ์ไฮบริดจ์ คือ การรวมตัวกันของสายพันธุ์เดลตาและโอไมครอน ตอนนี้ยังไม่พบผู้ป่วยสายพันธุ์ไฮบริดจ์ในไทย 

การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้การเปิดประเทศต้องหยุดชะงักและหันกลับมาใส่เรื่องสุขภาพของคนในชาติอีกครั้งหนึ่ง นอกจากมาตรการรับมือจากทางภาครัฐแล้ว ภาคประชาชนก็สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ด้วยเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบโดส มีการบูสเตอร์เมื่อภูมิเริ่มต่ำ รวมไปถึงการทำประกันภัยสุขภาพเพื่อประกันความเสี่ยงให้ตนเอง ผู้ที่สนใจทำประกันภัยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างฮักส์ได้หลายช่องทาง ทั้ง Facebook Line หรือโทร 0 2975 5855


#HUGS

#LifeALife

#LifeIsAllRight

#ฮักส์เคียงข้างทุกไลฟ์สไตล์

#ง่ายทุกการใช้ชีวิต

#ฮักส์จริงใจใส่ใจดูแลคุณ

#หมดห่วงเรื่องสุขภาพให้ฮักส์ดูแลคุณ

ช่องทางเป็นเพื่อนกับฮักส์

Facebook : HUGS Insurance
Line : HUGS Insurance

scroll top
ติดตาม "HUGS"
ช่องทางชำระเงิน
  • ชําระเงินผ่านบัตร visa, visa payment
  • ชําระเงินผ่านบัตร mastercard, mastercard payment
  • ชําระเงินผ่านบัตร jcb, jcb payment
  • ชําระเงินผ่าน unionpay, unionpay payment
  • ชําระเงินผ่าน discover, discover payment
  • ชําระเงินผ่าน american express, american express payment
  • ชําระเงินผ่าน diners club, diners club payment
ใบรับรอง/ใบอนุญาต
  • ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย, oic certificate
  • ประมวลผลบนระบบคลาวด์, aws, amazon-web-services รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ https, ssl certificate https
  • tiba
+