วิธีอยู่ร่วมกับคนในบ้าน เว้นระยะห่าง ปลอดภัยจากโควิด
เขียนเมื่อวันที่ 12/10/2021
Social Distancing อย่างไร ให้ปลอดภัยจากโควิด-19
นับวันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วง แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้หายป่วยใกล้เคียงกัน แต่ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ได้ ด้วยเหตุนี้เองภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดความรุนแรงของโรคหากติดเชื้อ และลดอัตราการติดเชื้อ ควบคู่กับการใช้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคมวิธีการที่ช่วยเซฟตัวเอง สามารถใช้ได้ทั้งเวลาออกไปเจอคนหมู่มากหรือตอนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนในบ้าน แล้วควรเว้นระยะห่างอย่างไร ให้ครอบครัวปลอดภัยห่างไกลโควิด-19 วันนี้ Hugs Insurance มีคำตอบมาฝาก
Social Distancing คืออะไร
Social Distancing หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นมาตรการป้องกันดูแลตัวเองและคนรอบข้าง เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเป็นการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลเมื่อต้องอยู่ร่วมกันในพื้นที่ที่มีผู้คนรวมกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน บริการขนส่งสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ที่ทำงาน หรือภายในบ้านพักของตนเอง
ต้องเว้นระยะห่างกี่เมตรถึงปลอดภัย
เพื่อความปลอดภัย ควรเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลประมาณ 1-2 เมตร
การเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 คือการทิ้งระยะห่างระหว่างบุคคลอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร เพราะความห่างระยะนี้ช่วยลดโอกาสในการสัมผัสละอองฝอยน้ำลายของคู่สนทนาได้ แต่หากต้องคุยกับแบบใกล้ ๆ เนื่องจากพื้นที่จำกัด ควรสวมหน้ากากอนามัยด้วย เพื่อป้องกันปากและจมูกไม่ให้มีช่องที่เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้
แนะ 12 วิธีเว้นระยะห่างทางสังคม ป้องกันสมาชิกในบ้านจากโควิด-19
ในบ้านจะมีสมาชิก 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่อยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ แต่ตอนนี้โรงเรียน มหาวิทยาลัยปิด ก็จะมีเด็กโตและวัยรุ่นด้วย กับอีกกลุ่มต้องออกไปทำงานนอกบ้านตอนเช้า กลับมาตอนเย็น เด็กโตหรือวัยรุ่นที่ออกไปเที่ยว กลุ่มหลังจึงมีโอกาสนำเชื้อมาแพร่ให้กับคนใกล้ตัว และเพื่อลดความเสี่ยงช่วง COVIF-19 ระบาด ควรปฏิบัติตัวดังนี้
(1) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไม่ว่าจะเป็นการนั่งหรือยืน ไม่น้อยกว่า 1 - 2 เมตร รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด ทั้งการจับมือ กอด หรือหอมแก้ม
(2) หากสามารถทำงานที่บ้านได้ก็ควรทำ รวมถึงหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะไปกินข้าว ไปซื้อของใช้จำเป็น หรือเที่ยวช่วงวันหยุด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ
(3) ลดการจับสัมผัสของใช้สิ่งของร่วมกัน หมั่นทำความสะอาดมือบ่อย ๆ และไม่สัมผัสใบหน้าตนเอง หากยังไม่ได้ล้างมือ
(4) อาบน้ำสระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อถึงบ้าน
(5) หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน เช่น จาน ชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำ รวมถึงแยกรับประทานอาหารระหว่างคนในบ้าน
(6) ทำความสะอาดสิ่งของที่หยิบจับด้วยกันหลายคน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได สวิตช์ไฟ หรือรีโมททีวี
(7) เมื่อรู้สึกว่าจะไอ จาม ควรปิดปากด้วยกระดาษทิชชู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคกระจาย แล้วนำไปทิ้งในถังขยะปิดให้เรียบร้อย หลังจากนั้นควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทันที
(8) เมื่อจำเป็นต้องอยู่บ้านเดียวกันกับผู้มีโอกาสได้รับเชื้อเพราะเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง เป็นเหตุให้กักตัวที่บ้านเพื่อดูอาการเป็นเวลา 14 วัน หรือผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอเตียงของโรงพยาบาล ให้สมาชิกทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
(9) หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้สูงอายุและสมาชิกที่มีโรคประจำตัวโดยไม่จำเป็น เนื่องจากบุคคลทั้ง 2 กลุ่ม มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงหากได้รับเชื้อโควิด-19 เสี่ยงมีอาการรุนแรงมากกว่าคนอื่น
เปิดหน้าต่างเพื่อนำอากาศจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน
(10) พยายามเปิดหน้าต่างหรือประตู เพื่อให้ภายในบ้านมีอากาศถ่ายเทมากกว่าปกติ
(11) หากที่บ้านมีห้องน้ำห้องเดียว ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำทุกครั้งหลังใช้ โดยเฉพาะอ่างล้างหน้า และจุดสัมผัสต่าง ๆ เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อ
(12) แยกขยะเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะขยะติดเชื้ออย่างหน้ากากอนามัยและชุดตรวจโควิดควรทิ้งในถุงสีแดง หรือถ้าไม่มีถุงสีแดงให้เขียนหน้าถุงว่าขยะติดเชื้อก่อนทิ้งที่ถังขยะทุกครั้ง
และนี่คือทริคง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตร่วมกันในบ้านได้อย่างปลอดภัย โดยไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ เพียงเว้นระยะห่างของร่างกาย สัมผัสกันน้อยลง และดูแลตัวเองอย่างถูกต้องก็ช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ ส่วนใครที่กำลังมองหาประกันภัยสุขภาพหรือประกันภัยโควิดในช่วงนี้ ฮักส์มีแผนประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงมีเงินชดเชยรายได้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855
อ้างอิงข้อมูล : Centers for Disease Control and Prevention, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข